อรรถพล ซีอีโอ ปตท. ชี้ ไบเดนชนะเลือกตั้งสหรัฐ เขย่าลงทุนพลังงาน

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์

อรรถพล “ปตท.” ชี้ ไบเดนชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ เขย่าลงทุนพลังงานสะอาด พลังงานทดแทน แง้มแผนการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้เพิ่มเป็น 8,000 เมกะวัตต์ภายในปี 73 มองเทรดวอร์สหรัฐ-จีน คลี่คลายขึ้น คาดราคาน้ำมันดิบปี’64 แตะ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ปี 64 มีทิศทางดีขึ้นจากปีนี้ จากการประเมินราคาน้ำมันในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมองว่าทิศทางที่สูงขึ้นแต่ไม่มากนักจากเฉลี่ย 41-42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีนี้

ส่วนปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ภายหลังนายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งประธาธิบดีสหรัฐฯ และหากมีวัคซีนต้านโควิด-19 ยิ่งทำให้สถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง

สำหรับนโยบายของ นายโจ ไบเดน นั้น น่าจะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนผ่อนคลายลง อีกทั้งมีนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทนมากกว่าพลังงานจากฟอสซิล นายโจ ไบเดน ได้ให้คำมั่นสัญญาถึงการเปลี่ยนแปลง ว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง ก็จะนำประเทศกลับเข้าร่วมความตกลงปารีสเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ในวันแรกที่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

ดังนั้น อาจทำให้การผลิตน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิสจากสหรัฐฯ ออกมาน้อยลงด้วย และมองว่า แต่ละประเทศต้องใส่ใจเรื่องพลังงานสะอาดมากขึ้น

โดยอนาคต ปตท.ยังคงเดินหน้าแผนการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้เพิ่มเป็น 8,000 เมกะวัตต์ภายในปี 73 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตกว่า 500 เมกะวัตต์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนหรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) ประมาณ 2-3 แห่งในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 1 ภายในปี 2564 โดยการเจรจานี้ไม่ได้อยู่ในอินเดีย ที่กลุ่ม ปตท.ยังคงศึกษาแผนการเข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วย

“ส่วนการกำหนดนโยบายด้านภาษีของนายไบเดน อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งก็จะกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเช่นกัน แต่สามารถชดเชยกันได้กับเศรษฐกิจโลก น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และการส่งออกของไทยให้ดีขึ้นด้วย”