“สุริยะ” จับมือ กฟภ.-กนอ. ศึกษาโครงการตั้งโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 20 เมกะวัตต์ ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมขายไฟได้ปี 64 รับแทรนด์รกษ์โลกสอดรับนโยบาย “โจ ไบเดน” ก่อนขยายไปอีก 3 แห่ง นิคมอุตสาหกรรมสงขลา นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ (ลำพูน) และนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย ครบ 60 เมกะวัตต์ กว่า 2,400 ล้านบาท
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกร่วมมือโครงการจัดการพลังงานในนิคมอุตสาหกรรมด้วยระบบทิจิทัลและการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ว่า กฟภ. เตรียมเริ่มโครงการศึกษาเพื่อลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในอ่างเก็บน้ำ หรือโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ (Floating Solar Farm) มูลค่า 1,000 ล้านบาท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดขนาด 20 เมกะวัตต์ เพื่อทำการขายไฟให้กับโรงงานอุตสาหกรรมภายในนิคมฯ ภายใต้นโยบาย Smart Energy ซึ่งจะทำการขายไฟได้ในปี 2564
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ทั้งนี้ นโยบาย Smart Energy สอดรับกับนโยบายของ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นอีกส่วนสำคัญในการสนับสนุน ให้เกิดการส่งเสริมพลังงานทดแทนในประเทศไทย รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะมุ่งไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่จะเน้นในเรื่องของ BCG (Bio,Circular,Green) ที่จะต้องมุ่งอุตสาหกรรมสีเขียว
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า จากนั้นจะขยายไปยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นอีก 3 แห่งตามแผน คือ นิคมอุตสาหกรรมสงขลา อ.ฉลุง จ.สงขลา, นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน และนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จ.สระบุรี รวมเป็น 4 พื้นที่ ขนาด 60 เมกะวัตต์ คิดเป็นเงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1,800 -2,400 ล้านบาท (30-40 ล้านบาท/1เมกะวัตต์) โดยเป้าหมายของ กนอ. มุ่งที่จะพัฒนาไปสู่นิคมอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานมาเป็นระบบสมาร์ทกริด ในการจัดการส่งจ่าย เชื่อมโยง และลดสูญเสียพลังงานและเน้นดูแลสิ่งแวดล้อมที่สอดรับกับเทรนด์ของโลก
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า กฟภ.จะเป็นผู้ลงทุนหลักและอาจจะมีการเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้ามาร่วมพัฒนา เบื้องต้นจะนำร่องที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 20 เมกะวัตต์สามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ภายในปี 2564 จากนั้นจึงจะทยอยติดตั้งในอีก 3 นิคมอุตสาหกรรมที่เหลือ โดยจะเน้นการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และยังเป็นการส่งเสริมพลังงานสะอาด โดย กนอ. สามารถนำไปโรดโชว์ดึงการลงทุนได้เพราะต่อไปอุตสาหกรรมจะต้องมุ่งดูแลสิ่งแวดล้อมตามเทรนด์โลกมากขึ้น