“บิ๊กฉัตร” ยัน “พายุขนุน” ไม่กระทบไทย ระบายน้ำภาคเหนือ-อีสานไม่ส่งผลต่อกทม.

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2560 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า

วันนี้ตนได้เสนอรายงานสถานการณ์น้ำต่อนายกรัฐมนตรี และในที่ประชุม ครม. ยืนยันพายุขนุนไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย แต่รับได้รับผลกระทบฝนตกจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน ทำให้ทางภาคเหนือ อีสานตอนบน และภาคกลางยังคงมีฝนตกอยู่

“การระบายน้ำในพื้นที่ภาคอีสานยังมีปริมาณน้ำเดิมจากพายุเซนกา ในเขื่อนอุบลรัตน์ที่มีน้ำเต็มเขื่อน จะระบายน้ำแบบขั้นบันไดตั้งแต่ 30-46 และสูงสุดที่ 54 ล้านลูกบาศก์เมตร อาจส่งผลกระทบในจังหวัดมหาสารคาม/ยโสธร/ร้อยเอ็ด ที่ตอนนี้ระดับน้ำท่วม 20-30 เซนติเมตร เชื่อมไปยังลุ่มน้ำมูล ผลักดันต่อไปแม่น้ำโขง โดยเขื่อนภูมิพลรองรับน้ำได้อีกร้อยละ 66 ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ยังรอบรับน้ำได้ร้อยละ 80 หากฝนตกเหนือเขื่อนจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากฝนตกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะยังมีพื้นที่ทุ่งรับน้ำ 12 แห่งรับได้กว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมยืนยันว่าปริมาณการระบายน้ำในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานจะไม่ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ”

ส่วนทางด้านภาคเหนือพื้นที่ต้นน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้ปิดการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ตั้งแต่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้ใช้พื้นที่แก้มลิงธรรมชาติที่บางระกำ รองรับน้ำจากลุ่มน้ำยมและรับน้ำเต็มแล้ว 450 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อมวลน้ำมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาจังหวัดนครสวรรค์จะดำเนินการระบายน้ำไป 2 ฝั่งก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยาควบคุมการระบายน้ำที่ 2,600 ลูกบากศ์เมตร/วินาที ทั้งนี้เมื่อพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ปริมาณฝนตกลดลงจะปรับการระบายน้ำลดด้วยต้องประเมินสถานการณ์รายวัน

ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัยระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเรื่องการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ให้ทุกส่วนราชการเข้าดูแล โดยกระทรวงเกษตรกรรับผิดชอบงบประมาณเรื่องพื้นที่การเกษตร ขณะที่การพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกในพื้นที่กรุงเทพฯวันนี้เป็นส่วนรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร