พาณิชย์ฟันท่าข้าวไม่วัดความชื้นรับซื้อข้าว

พาณิชย์ตรวจเข้ม ท่าข้าวไม่วัดความชื้น ไม่มีใบประกอบอนุญาต ล่าสุดเดินหน้าดำเนินคดีแล้ว 1 รายที่สิงห์บุรี

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบการรับซื้อข้าวเปลือกตามฤดูกาลที่กำลังออกสู่ตลาดในตอนนี้ เพื่อป้องกันปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ และสร้างความเป็นธรรมทั้งเกษตกรและผู้ประกอบการรับซื้อข้าวในช่วงที่ข้าวออกมาเยอะ

โดยกรมการค้าภายในได้มอบหมายให้ นายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบและปฏิบัติการ ร่วมกับพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบการรับซื้อข้าวเปลือกของท่าข้าวในพื้นที่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี พบว่า พบการกระทำผิดซึ่งถือว่าเป็นการเอาเปรียบชาวนา ใน 3 กรณี ดังนี้

กรณีที่ 1 ไม่มีหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าว โดยใช้สำเนาหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าวของที่อื่นมาแสดง มีความผิดตามมาตรา 9 มีโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.การค้าข้าว กำหนดระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรณีที่ 2 ไม่วัดความชื้นในการรับซื้อข้าวเปลือก แต่ระบุเปอร์เซ็นต์ความชื้นในใบชั่งให้เกษตรกรในภายหลัง ซึ่งฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 66 พ.ศ.2563 ข้อ 2 “การกำหนดราคารับซื้อข้าวเปลือกของผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกต้องระบุราคารับซื้อ ตามมาตรฐานความชื้นที่รับซื้อให้ชัดเจน”

โดยกำหนดความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สำหรับข้าวเปลือกทั่วไป และความชื้นที่ร้อยละ 25 สำหรับข้าวเปลือกเกี่ยวสด” ซึ่งมีความผิดไม่ปฏิบัติตามประกาศฯ มีระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ในกรณีที่ 1 และ 2 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้กระทำความผิด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี

และกรณีที่ 3 ไม่ใช้เครื่องวัดความชื้นในการรับซื้อข้าวเปลือก เป็นความผิดตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ตามมาตรา 25 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด ซึ่งระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีนี้ได้เปรียบเทียบปรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี ขอให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกรับซื้อข้าวเปลือกอย่างเป็นธรรมและเกษตรกรต้องระมัดระวัง และดูแลประโยชน์ของตนด้วย หากพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ