“หมอบุญ วนาสิน”ทุ่ม 3.5 หมื่นล้าน ตั้งโรงงานผลิตถุงมือยางที่ EEC

GLOVE-ถุงมือยาง
(File Photo)Mohd RASFAN / AFP

“หมอบุญ” อัด 3.5 หมื่นล้าน สร้างโรงงานรับซื้อยางในประเทศ 6 แสนตัน/ปี ผลิตถุงมือยางส่งออก พื้นที่ EEC เปรยทุนนอกอียู-อเมริกา รุมจีบคึกคัก หวังดันไทยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดโลกเป็น30% ตั้งเป้าเข้าตลาดหุ้นปี’66

วันที่ 7 ธันวาคม 2563 นายมนตรี ปุณณมากุล ผู้จัดการ บริษัท ไทยเมดิคอล โกล์ฟ จำกัด บริษัทภายใต้การกำกับดูแลของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเงินลงทุนประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท สำหรับสร้างโรงงานผลิตถุงมือยาง สร้างโรงงานผลิตถุงมือ 4 แห่ง ในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) จำนวน 3 แห่ง และอีก 1 แห่งอยู่ที่ปลวกแดง จังหวัดระยอง

ทั้งนี้ ปี 2564 จะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ 3 โรงงาน และปี 2565 จะเดินเครื่องผลิตได้ครบ 4 โรงงาน ปี 2564 ปีแรกของการเดินเครื่องผลิต 3 โรงงาน จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณครึ่งปีหลัง เกือบ 8,000 ล้านบาท และปี 2565 ทุกโรงงานสามารถผลิตและรับรู้รายได้ได้ มีกำไรก่อนหักค่าเสื่อมมากกว่า 22%

ดังนั้นปลายปี 2565 จะเป็นปีที่ยื่นขอกระจายหุ้น(IPO) และปี 2566 จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้

“ไทยผลิตน้ำยางข้น ประมาณ 4 ล้านตัน ส่งออกไปจีน และเวียดนามประมาณ 80% ซึ่งทั้งจีนและเวียดนามก็นำน้ำยางของไทยไปผลิตเพื่อส่งออก ทำกำไรในตลาดถุงมือยางมหาศาล ดังนั้นการลงทุนครั้งนี้บริษัทจะใช้น้ำยางข้นในประเทศประมาณ 1.6-2 แสนตัน/ปี จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีกำไร ราคายางของไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้น”

นายมนตรี กล่าวว่า หลังจากมีการเปิดตัวว่าบริษัทเตรียมผลิตถุงมือ เพื่อส่งออก มีนักลงทุนต่างชาติ ทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา ต่างติดต่อเข้ามาเพื่อของซื้อถุงมือเป็นจำนวนมาก หลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการถุงมือยางเติบโตมาก ประมาณ 4,000 ล้านกล่อง/ปี แต่กำลังการผลิตในปัขจุบันมีประมาณ 1,800 กล่อง หากทั้ง 4 โรงงานเดินกำลังผลิตได้แล้ว บริษัทจะสามารถผลิตถุงมือยางได้ประมาณ 240 ล้านกล่อง ทั้งหมดจะผลิตเพื่อการส่งออก

ส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่มีสัดส่วนการผลิตถุงมือยางอันดับ 1 ของไทย หรือประมาณ 80% ของมาร์เก็ตแชร์ตลาดโลกที่ 14% เมื่อรวมกับ บริษัท ศรีตรังแล้ว จะทำให้มาร์เก็ตแชร์ในตลาดโลกของไทย เพิ่มขึ้นเป็น 25-30%