ด่านเมียนมายังเข้ม นำเข้า-ส่งออก พบไทยเปิดด่าน 37 แห่งใช้ขนส่งสินค้า

การค้าชายแดน-ผ่านแดน 10 เดือนลดลง 4.11% มั่นใจยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แม้เจอปัญหาโควิด-19 โดยเฉพาะด่านเมียนมาเพิ่มความเข้มงวดในการขนส่ง กรมฯเปิดแผนปี 64 เร่งกระตุ้นการค้าชายแดน-ผ่านแดน

วันที่ 8 ธันวาคม 2563 พาณิชย์ คต. เผยสถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนช่วง มกราคม-ตุลาคม ปี 2563 มีมูลค่า 1,081,572 ล้านบาท ลดลง 4.11% การขยายตัวมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยการค้าชายแดน มีมาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งมียางพารา เป็นสินค้าส่งออกสูงสุด และการค้าผ่านแดนมีจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีผลไม้สดแช่เย็นเป็นสินค้าส่งออกสูงสุด

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ช่วง มกราคม-ตุลาคม ปี 2563 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,081,572 ล้านบาท ลดลง 4.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 626,396 ล้านบาท ลดลง 4.32%

และการนำเข้า 455,176 ล้านบาท ลดลง 3.81% ไทยเกินดุลการค้า 171,219 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากโควิด-19 แต่อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการขยายตัวของการค้าชายแดนและผ่านแดนจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 10 เดือนของปี 2563 สถิติการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา) พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 198,646 ล้านบาท ลดลง 14.67% รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่า 156,114 ล้านบาท ลดลง 5.21% เมียนมา มูลค่า 137,726 ล้านบาท ลดลง 14.85% และกัมพูชา มูลค่า 131,173 ล้านบาท ลดลง 1.16%

ขนส่งชายแดน

โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์อื่น ๆ และน้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ เมียนมา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันดีเซล และผ้าผืนและด้าย และกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และรถยนต์นั่ง

ในด้านการค้าผ่านแดนไปยัง จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 194,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.06% รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 72,793 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.21% เวียดนาม มูลค่า 49,664 ล้านบาท ลดลง 13.77% และประเทศอื่น ๆ มูลค่า 140,718 ล้านบาท ลดลง 6.13%

สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และยางพารา สิงคโปร์ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า และเวียดนาม ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด

นายกีรติ กล่าวอีกว่า จากปัญหาโควิด-19 ระลอกที่สองในเมียนมา ส่งผลให้จังหวัดชายแดนของไทยด้านประเทศเมียนมาได้เพิ่มความเข้มงวดในการบริหารจัดการการขนส่งสินค้าข้ามแดน โดยในเดือนตุลาคม 2563 จังหวัดตากได้มีคำสั่งระงับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าตามแนวชายแดนจังหวัดตากเป็นการชั่วคราว

ระหว่างวันที่ 18 – 25 ตุลาคม 2563 เพื่อจัดระเบียบการขนส่งสินค้าบริเวณชายแดน ซึ่งจังหวัดตากได้กำหนดให้มีจุดขนถ่ายสินค้าปลอดภัยในบริเวณคลังสินค้าศุลกากร (Safety Zone)

พร้อมมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติในพื้นที่จังหวัดตาก ส่งผลให้เดือนตุลาคม 2563 มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา ณ ด่านศุลกากรแม่สอดมีมูลค่าเพียง 3,524 ล้านบาท ขณะที่เดือนกันยายนมีมูลค่าการค้า 5,701 ล้านบาท อย่างไรก็ดี คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน 2563 มูลค่าการค้า ณ ด่านศุลกากรแม่สอดจะเพิ่มกลับมาดังเดิม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ไทยมีการเปิดทำการจุดผ่านแดนเพื่อการขนส่งสินค้ารวมทั้งสิ้น 37 แห่ง จาก 97 แห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2564 กรมฯ มีแผนร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดน ภายใต้งานมหกรรมการค้าชายแดนใน 4 ภูมิภาค (เชียงราย สงขลา สระแก้ว นครพนม ยะลา) ซึ่งภายในงานจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า แบบผสมผสาน Offline และ Online การจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching)

การประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และการสัมมนาให้ความรู้ด้านกฎระเบียบทางการค้าและโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ เป็นต้น โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 เป็นต้นไป