“พาณิชย์” ล็อกเป้าตลาด ปั๊มยอดส่งออกฝ่าโควิดปี 64 เพิ่ม 4%

ส่งออก

พาณิชย์กางแผนจัดกิจกรรมดันยอดส่งออกปี 2564 ตั้งเป้าโต 4% จัดพอร์ตตลาด 3 กลุ่มตามความเสี่ยงโควิด-19 วางหมากสินค้าเป้าหมาย พร้อมระดมมาตรการส่งเสริมทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ ดึง 9 แพลตฟอร์มดังโปรโมตสินค้าไทย

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมเตรียมแผนผลักดันการส่งออกไทยปี 2564 ซึ่งคาดจะขยายตัว 4% จากปี 2563 ที่คาดว่าจะยังติดลบ 7% จากปัจจัยบวกที่หลายประเทศเริ่มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วยให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับฐานการส่งออกปีนี้ปรับลดลงต่ำมาก

“ตัวเลขการส่งออกวางไว้เป็นเป้าหมายในการทำงานที่ต้องการเดินหน้าให้ได้ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงโควิด-19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูว่ายังมีปัจจัยจากข้อจำกัดในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศที่อาจดำเนินมาตรการได้ไม่เต็มที่นัก ปัญหาล็อกดาวน์ในหลายประเทศ และภาวะการว่างงานมีมากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลต่อกำลังซื้อ”

สำหรับแผนผลักดันการส่งออกปี 2564 ได้กำหนดกลุ่มตลาดเป้าหมายไว้ 3 กลุ่ม (ตามกราฟิก) คือ ตลาดที่พร้อมที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ กลุ่มตลาดฟื้นตัว ยังมีการแพร่ระบาดแต่ไม่รุนแรงมาก และกลุ่มตลาดท้าทายที่ยังมีความรุนแรง ซึ่ง การแบ่งกลุ่มจะช่วยให้สามารถดำเนินกิจกรรมส่งเสริมได้ตามเป้าหมายมากขึ้น

การแบ่งกลุ่มตลาดเป้าหมาย

สำหรับแผนกิจกรรม จะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ผ่านการจัดกิจกรรมรูปแบบ M&M (mirror & mirror) เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความต้องการในต่างประเทศ และจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบเสมือนจริง (virtual exhibition)

เช่น งานแสดงสินค้าเสมือนจริง Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) Special Edition On Ground to Online Exhibition ซึ่งจะมีการจัดขึ้น ในวันที่ 24 พ.ย. 2563

รวมถึงการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งกรมอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบที่เหมาะสม เช่น งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ หรือ STYLE, งานแสดงสินค้าอาหาร หรือ THAIFEX ANUGA ASIA, งานแสดงสินค้าอะไหล่และชิ้นส่วนยานยนต์ หรือ TAPA และงานแสดงสินค้าด้านโลจิสติกส์ หรือ TILOG LOGISTIX

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์ช่วงครึ่งปีแรกรวม 22 ครั้ง โดยกรมมีเป้าหมายจะจัดกิจกรรมเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แบ่งเป็นไตรมาส 1 จะจัดงาน 12 ครั้ง ในสินค้าเป้าหมาย เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพ ชิ้นส่วนยานยนต์ สินค้าฮาลาล สปา อาหารสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องประดับ ส่วนไตรมาส 2 จะจัดอีก 10 ครั้ง ในกลุ่มสินค้าเป้าหมาย เช่น สินค้าแม่และเด็ก อาหารสัตว์ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องมือแพทย์ และยางพาราและผลิตภัณฑ์

ส่วนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศมีทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เตรียมจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือ In Store Promotion เพื่อส่งเสริมการขายและสร้างการรับรู้สินค้าไทยให้กับผู้ซื้อ ผู้บริโภคในต่างประเทศ ซึ่งมีตลาดเป้าหมาย เช่น ญี่ปุ่นมีห้าง AEON, Beisia และ DONKI

โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย เน้นสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ผลไม้พรีเมี่ยม ส่วนตลาดจีนจะต่อยอดกิจกรรม Thai Fruits Golden Months in China ใน 10 เมืองทั่วประเทศจีน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าให้ได้ 30% หรือ 260 ล้านบาท ภายใน 1 ปี และตลาดอาเซียนจะผลักดันสินค้าใหม่ ๆ เข้าสู่ห้าง modern trade กว่า 800 สาขา

ขณะเดียวกันจะส่งเสริมการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม 9 แพลตฟอร์ม เช่น Tmall ของจีน, Coupang ของเกาหลีใต้, Bigbasket ของอินเดีย, Klangthai ของกัมพูชา, Lazada RedmartRedmart และ Amazon ของสิงคโปร์, Prestomall.com ของมาเลเซีย, Amazon ของสหรัฐ, Blibli.com ของอินโดนีเซีย เป็นต้น

“กรมพร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมผลักดันการส่งออก เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย ยังเชื่อว่าสินค้าไทยยังเป็นที่ต้องการ และได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อทั่วโลก”