“สนธิรัตน์” ลงเยี่ยมโครงการธงฟ้าประชารัฐ สมุทรปราการ เผย ปชช.ใช้สอยคึกคัก!

“สนธิรัตน์” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ “ธงฟ้าประชารัฐ” ที่จังหวัดสมุทรปราการ พบประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก เผยได้เร่งแก้ปัญหาติดตั้งเครื่องรูดบัตรล่าช้าแล้ว โดยประสานสมาคมธนาคารไทย ธนาคารออมสินให้เข้ามาช่วย คาดสิ้นเดือน พ.ย.ติดตั้งได้ 1.8 หมื่นแห่ง ยันคัดเลือกร้านค้าเข้าโครงการโปร่งใส ส่วนประชาชนซื้อสินค้าได้ทุกชนิด ไม่จำกัด ยกเว้นสุราและบุหรี่

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ “ธงฟ้าประชารัฐ” ที่จังหวัดสมุทรปราการ ว่า ได้ตรวจเยี่ยมการจำหน่ายสินค้าของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ ร้านบุ๊กบิ๊กมินิมาร์ท, ร้านค้าประชารัฐ (กองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 5) ต.สำโรงเหนือ และร้าน ดี.ดี ซุปเปอร์สโตร์ ท่าเรือข้ามฟากปากน้ำ ต.ปากน้ำ โดยพบว่ามีประชาชนเดินทางมาใช้จ่ายซื้อสินค้ากันอย่างต่อเนื่อง และใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อซื้อสินค้าตามวงเงินที่ได้รับ และส่วนใหญ่ซื้อสินค้าในกลุ่มข้าวสาร น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เป็นต้น

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ให้ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินในบัตรให้หมดในทันที สามารถใช้ได้วันไหนก็ได้ตลอดทั้งเดือน และที่สำคัญ วงเงินของเดือน ต.ค. รัฐบาลได้ทบไปใช้ในเดือน พ.ย.ได้ด้วย จะไม่มีการตัดทันทีเมื่อสิ้นเดือนตามที่เคยกำหนดไว้ เพราะยังมีปัญหาในเรื่องการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ที่ยังทำได้ไม่ครอบคลุม

ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้ผิดประเภท เช่น ห้ามมิให้ซื้อสินค้าในกลุ่มสุราและบุหรี่ หรือนำไปแลกเป็นเงินสด ตามที่เคยเกิดปัญหาก่อนหน้านี้ โดยหากมีการตรวจสอบพบ หรือได้รับการร้องเรียนจากประชาชน จะเข้าไปตรวจสอบ และถ้าพบว่ากระทำความผิดจริง ก็จะปลดออกจากการเข้าร่วมโครงการและยึดเครื่อง EDC รวมทั้งจะดำเนินการตามกฎหมายด้วย

โดยในจังหวัดสมุทรปราการ มีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 201 ร้าน มีประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 129,891 คน และมีร้านค้าที่ได้รับการติดตั้งเครื่อง EDC แล้ว 37 ตำบล ยังไม่ได้รับการติดตั้งอีก 13 ตำบล ซึ่งจะมีการเร่งรัดให้มีการติดตั้งให้ครบทุกตำบลโดยเร็ว

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาการติดตั้งเครื่องรูดบัตร EDC ในภาพรวม กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมธนาคารไทย ให้ประสานธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสมาชิกช่วยติดตั้งเครื่อง EDC ให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีเพียงธนาคารกรุงไทยเพียงแห่งเดียวที่รับติดตั้ง และขอความร่วมมือธนาคารออมสินให้ช่วยติดตั้งด้วย โดยคาดว่าหากมีธนาคารเข้ามาช่วยติดตั้งเพิ่มขึ้น จะทำให้การติดตั้งรวดเร็วขึ้น และตั้งเป้าจะติดตั้งให้ได้ 18,000 แห่ง ภายในสิ้นเดือน พ.ย. จากเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ 20,000 แห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า การคัดเลือกร้านค้าให้เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ ดำเนินการด้วยความโปร่งใส และคัดเลือกโดยคำนึงถึงความครอบคลุมจำนวนประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งการจำหน่ายสินค้าตามที่กำหนด ห้ามแลกสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ห้ามบังคับให้มีการรูดซื้อสินค้าตามที่ทางร้านกำหนด และห้ามยึดบัตรเก็บไว้ ซึ่งหากมีการตรวจสอบพบก็จะดำเนินการเพิกถอนสิทธิ์ทันที

ส่วนการซื้อสินค้าในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้ทุกชนิด ได้แก่ อาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ข้าวสาร น้ำปลา ผักผลไม้ เป็นต้น อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน ยาสามัญประจำบ้าน รวมทั้งสินค้าชุมชน โอทอป ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ บุหรี่ โดยจะต้องซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐที่มีการติดตั้งเครื่องรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะสามารถใช้วงเงินตามสิทธิที่ได้รับคนละ 200 หรือ 300 บาทต่อเดือน เพื่อซื้อสินค้า