วีรศักดิ์ หนุนขึ้น GI ใหม่ 18 สินค้า พร้อมเพิ่มช่องออนไลน์-เฟซบุ๊ก-shop@24

ข้าว
Photo by NICOLAS ASFOURI / AFP

“วีรศักดิ์” มอบกรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าส่งเสริมสินค้า GI ตั้งเป้าขึ้นทะเบียนใหม่ในประเทศ 18 สินค้า จดทะเบียนในต่างประเทศ 2 สินค้า พร้อมช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ผ่านทางออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก และแพลตฟอร์ม shop@24 เพื่อสร้างรายได้

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบกรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าส่งเสริมการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในไทยตั้งเป้าร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI รายการใหม่อีกอย่างน้อย 18 รายการ จากเดิมที่ขึ้นทะเบียนไปแล้ว 134 รายการ และในการขอรับความคุ้มครองในต่างประเทศ ได้คัดเลือกสินค้าไทยที่มีศักยภาพจำนวน 2 สินค้า

ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง มาจัดทำคำขอยื่นจดทะเบียน GI ในอินโดนีเซีย เพื่อยกระดับสินค้าไทยให้ได้มาตรฐานสากลและเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับเกษตรกร

วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล

“คาดว่าการผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียน GI ใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับสินค้า GI ได้สูงขึ้น หลังจากที่ผ่านมา สินค้าภายใต้ระบบการคุ้มครอง GI ไทยสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดโดยรวมได้กว่า 36,000 ล้านบาท”

นายวีรศักดิ์กล่าวว่า ยังได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัวและจำหน่ายสินค้า GI ได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยล่าสุดได้มีการจัดทำแผนขยายตลาดสินค้า GI สู่ช่องทางออนไลน์แล้ว ด้วยการหาช่องทางการตลาดที่เหมาะสมกับจุดเด่นของตัวสินค้า จัดอบรมเทคนิคจำเป็นในการขายสินค้าออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการ GI และเตรียมจัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Facebook เพจกรมทรัพย์สินทรัพย์สินทางปัญญา เพจ GI Thailand เว็บไซต์ shop@24 เป็นต้น

นอกจากนี้ จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ จัดโปรโมตสินค้า GI ไทยผ่านเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ ประเทศญี่ปุ่น www.thailandtravel.or.jp เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคุณภาพสินค้า GI ไทยให้เป็นที่รู้จัก และสร้างการรับรู้ถึงเอกลักษณ์ความแตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันที่มาจากแหล่งภูมิศาสตร์อื่น

Advertisment

ทั้งนี้ นอกจากการส่งเสริมการจดทะเบียน GI ทั้งในและต่างประเทศแล้ว จะให้ความสำคัญกับการจัดทำระบบควบคุมตรวจสอบคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศว่าจะได้รับสินค้า GI ที่มีคุณภาพและมาจากแหล่งผลิตที่แท้จริงด้วย

Advertisment