กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชูแคมเปญ Powered by DBD สร้างโอกาสทางธุรกิจ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชูแคมเปญ Powered by DBD เตรียมเดินหน้าสร้างโอกาสให้กับภาคธุรกิจไทย ผลักดันนำเทคโนโลยีมาใช้ สร้างโอกาสทางการตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้กำหนดแคมเปญพิเศษ Powered by DBD เพื่อรองรับการทำงานในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 99 และใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานตลอดปี มีเป้าหมายสำคัญ เพื่อเสริมพลังสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีของไทย ให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีความมั่นคง

โดยจะผลักดันให้ธุรกิจไทยมีศักยภาพด้านการผลิตและการบริหารจัดการที่ดีขึ้นใน 3 ส่วน ได้แก่ 1.ธุรกิจไทยมีผลิตภาพที่สูงขึ้น มีความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.ธุรกิจไทยมีภูมิคุ้มกันที่ดี มีความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่มีความผันผวน ไม่แน่นอน และซับซ้อน และ 3.การกระจายผลประโยชน์จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง มีความเท่าเทียมกัน และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ทศพล ทังสุบุตร

สำหรับรูปแบบการเสริมพลังให้ผู้ประกอบการไทย จะให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจและความรู้ที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้ มีการใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI มาช่วยในการแก้ปัญหา เพื่อปิดจุดอ่อน เสริมจุดแข็ง และช่วยลดต้นทุน สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการ

นอกจากนี้ จะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด โดยขยายช่องทางการตลาดให้มีความหลากหลายครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ปรับเปลี่ยนแนวคิดโดยใช้ความต้องการของตลาดเป็นตัวกำหนดการผลิตสินค้าและบริการ ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำการผลิต” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยีให้สอดรับกับวิถีปกติใหม่ (New Normal) เพื่ออำนวยความสะดวกภาคธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมก้าวสู่วิถีธุรกิจในยุคถัดไป (Next Normal) ด้วยความมั่นคง

ขณะเดียวกัน จะส่งเสริมธุรกิจที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าของประเทศ เช่น ธุรกิจบริการ ธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ประกอบการโอทอป เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club สินค้าชุมชน ตลอดจน การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทย ด้วยการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการร้านค้าส่งค้าปลีกตามเกณฑ์มาตรฐาน และพัฒนาสู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ให้ร้านโชวห่วยในพื้นที่เป็นกลไกกระจายรายได้และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น

เนื่องจากเป็นแหล่งจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภคของชุมชน เป็นช่องทางการกระจายสินค้าโอทอป และสินค้าชุมชนต่างๆ เป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็ง พร้อมทั้งสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนด้วยหลักประกันทางธุรกิจ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ร่วมลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

“กรมฯ พร้อมให้การส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการทุกระดับอย่างเต็มที่ สนับสนุนกลไกตลาดและส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จำเป็นต่อการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวให้อยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ของโลก เป็นการยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการผ่านกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กรมฯ ได้สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการไทย” นายทศพลกล่าว

ทั้งนี้ ในวันที่ 16 ม.ค.2564 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีอายุครบ 98 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ดำเนินการพัฒนาการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และได้รับความพึงพอใจสูงสุด ขณะเดียวกัน ได้เผชิญกับความท้าทาย การเปลี่ยนแปลง และการบริหารความเสี่ยงบนบริบทการเปลี่ยนผ่านทั้งของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศไทยที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จึงต้องปรับรูปแบบการบริหารงาน เพื่อนำพาภาคธุรกิจของประเทศให้เติบโต และสร้างความมั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ