ข้าวโพดจีนราคาพุ่ง แนะผู้ส่งออกมันเส้นเจาะตลาด ล่าสุดเคาะประกันมันฯงวด 3

กรมการค้าต่างประเทศ เผยราคาข้าวโพดจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แนะผู้ส่งออกมันเส้นเร่งตีตลาด ขณะที่ พาณิชย์ เคาะราคาประกันมันงวด งวดที่ 3 ชดเชยกิโลกรัมละ 28 สตางค์

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯได้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวโพดของจีนซึ่งเป็นธัญพืชทดแทนมันสำปะหลังที่สำคัญ พบว่าปัจจุบันราคาข้าวโพดจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ โดย ณ วันที่ 21 มกราคม 2564 ราคาข้าวโพดเฉลี่ย ณ มณฑลซานตงอยู่ที่ 3,080 หยวนต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 69.51 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,817 หยวนต่อตัน

เนื่องจากปริมาณผลผลิตข้าวโพดไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้ามันเส้นของไทยแข่งขันได้ดีขึ้น เป็นโอกาสดีของผู้ส่งออกมันเส้นของไทยที่จะเร่งขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ในมณฑลที่หลากหลาย นอกเหนือจากตลาดเดิมคือเจียงซูและซานตง

“กรมฯ ได้รับรายงานว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของจีนตอนล่างในพื้นที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลฝูเจี้ยน ได้ปรับสูตรอาหารสัตว์ของตนเพื่อใช้มันสำปะหลังทดแทนข้าวโพดที่มีราคาสูงมากในขณะนี้ โดยได้แสดงความต้องการนำเข้ามันเส้นของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ ประกอบกับปัจจุบันโรงงานผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังในพื้นที่ภาคกลางของจีนแถบมณฑลหูเป่ย์ได้ทยอยเปิดดำเนินการผลิตแล้ว เนื่องจากราคาแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังที่อยู่ในระดับ 7,250 หยวนต่อตัน จูงใจให้โรงงานเพิ่มกำลังการผลิต จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ส่งออกไทยจะขยายการส่งออกมันเส้นไปยังตลาดใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถรองรับมันเส้นไทยได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี หรือเทียบเท่าหัวมันสด 3.75 ล้านตันต่อปี ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นตลาดของผู้ขาย (Seller’s Market) หากผู้นำเข้ามันเส้นรายใหญ่กดราคารับซื้อ ผู้ส่งออกไทยสามารถจำหน่ายมันเส้นให้กับมณฑลอื่นๆ

นอกเหนือจากเจียงซูและซานตงซึ่งเป็นตลาดเดิม และหากผู้ส่งออกมันเส้นรายใดต้องการคำแนะนำในการขยายตลาดไปยังมณฑลใหม่ๆ สามารถติดต่อไปยังสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่กระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาคจีนได้โดยตรง ทั้งนี้ เพื่อให้การส่งออกมันเส้นของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นธรรม และรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังในประเทศ

อย่างไรก็ดี หากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ ความชื้นสูง มีสิ่งปลอมปน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อไป

ล่าสุดนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เปิดเผยว่า วันที่ 27 ม.ค.2564 ที่ประชุมได้เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64 งวดที่ 3

โดยจะชดเชยส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและระบุวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2563 และระบุวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.2564 ในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 0.28 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างจากราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2.50 บาทต่อกก. โดยราคาตลาดหัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% ราคาตลาดขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่กก.ละ 2.22 บาท

สำหรับราคาตลาดเพื่อใช้ในการคำนวณส่วนต่าง ได้นำราคาที่ซื้อขายจริงในตลาดจาก 5 แหล่งผลิต ได้แก่ กรมการค้าภายใน ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน ในแหล่งผลิตสำคัญ 14 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา กำแพงเพชร ชัยภูมิ กาญจนบุรี อุบลราชธานี สระแก้ว นครสวรรค์ เลย กาฬสินธุ์ อุดรธานี บุรีรัมย์ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ลพบุรี ,ราคาสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย จาก 14 จังหวัด

ราคาสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ใน 10 เขตพื้นที่จำนวน 29 จังหวัด , ราคาสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และราคาสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนำมาถ่วงน้ำมันในอัตรา 25% , 25% , 25% , 10% และ 15% ตามลำดับ

ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างจะจ่ายทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นเวลา 12 เดือน โดยได้จ่ายงวดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ที่กก.ละ 0.26 บาท งวดที่ 2 กก.ละ 0.20 บาท ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง โดยเกษตรกร 1 ครัวเรือน จะใช้สิทธิได้ 1 ครั้ง

โดยการคำนวณผลผลิตที่จะได้รับการชดเชย ได้ใช้ปริมาณผลผลิตต่อไร่ย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2560/61 ปี 2561/62 และปี 2562/63) ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เท่ากับ 3,419 กก./ไร่ คูณด้วยจำนวนไร่ตามที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน และในงวดที่ 3 นี้ เกษตรกรจะได้รับชดเชยสูงสุดอยู่ที่ 28,000 บาท