“สมฤดี” ซีอีโอ บ้านปู ชูนโยบาย Banpu Transformation เร่งสปีดพอร์ตพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม ผลักดันเทคโนโลยีดิจิทัลทั่วทั้งองค์กร สู่อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน เผยอานิสงส์นโยบาย โจ ไบเดน ดันกำลังผลิตก๊าซธรรมขาติ แง้มแผนลงทุน 5 ปี ขยายกำลังผลิตจีน ญี่ปุ่น ขณะที่เวียดนามเน้นลงทุนโรงไฟฟ้าที่รับกระแสเงินสดทันที
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของบริษัท โดยที่ผ่านมาเริ่มแผน Banpu Transformation มาอย่างต่อเนื่องและเริ่มเข้มข้นมากขึ้นเมื่อ 4-5 ปี ที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งตอกย้ำโลกยุค Never Normal ว่า โลกของเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อให้ก้าวสู่เป้าหมายของความยั่งยืนทางธุรกิจ Banpu Transformation ให้ความสำคัญกับ 2 เรื่อง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ได้แก่ 1.การเพิ่มสัดส่วนพอร์ตโฟลิโอพลังงานที่สะอาดและฉลาดให้มากขึ้น ผ่านบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด 2.การปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล หรือ Digital Transformation ซึ่งได้ทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 3 ปีผ่านหน่วยงาน DCOE ทั้งหมดนี้เพื่อให้บ้านปูพร้อมแข่งขันในฐานะผู้นำธุรกิจด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ (International Versatile Energy Provider) ด้วยความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (supply chain) ของการส่งมอบอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม บ้านปูมี “บ้านปู เน็กซ์” เป็นเรือธงในการสร้างและขับเคลื่อนพอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน และพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานเพื่อตอบเทรนด์พลังงานยุคใหม่ 3Ds ได้แก่ การกระจายตัวของแหล่งผลิตและจำหน่ายพลังงาน (Decentralization) การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลบริหารจัดการระบบพลังงาน (Digitalization)
สำหรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลของบ้านปู (Digital Transformation) บริษัทฯ ได้จัดตั้ง Digital Center of Excellence (DCOE) ในปี 2561 เพื่อเป็นหน่วยงานเรือธงในการนำบ้านปูสู่การปรับเปลี่ยนวิธีทำงานให้ตอบรับโลกยุคใหม่ ตั้งแต่การวางยุทธศาสตร์ ไปจนถึงการทำงานในทุกขั้นตอนตลอดจนพัฒนาทักษะให้พนักงาน ทั้งการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็น (Reskill) และการยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (Upskill)
ปัจจุบัน ความสำเร็จของขั้นตอน Digital Transformation เห็นเป็นรูปธรรมแล้วใน 4 ประเทศนำร่อง ได้แก่ ประเทศไทย ออสเตรเลีย จีน และอินโดนีเซีย ซึ่งในประเทศเหล่านี้มีหน่วยงาน Digital Capability Centers ตั้งอยู่ที่สำนักงานในประเทศนั้น ๆ (Physical) และมีทีมงานทำงานร่วมกับ DCOE ที่สำนักงานใหญ่ในประเทศไทย (Virtual)
โดยได้ขับเคลื่อนกระบวนการ Digital Transformation ที่เหมาะกับบริบทของธุรกิจในแต่ละประเทศ ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างสรรค์ไอเดีย พัฒนา และร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนั้น ๆ จากเครือข่ายเทคโนโลยีของบ้านปู โดยมีดิจิทัลโปรดักส์ กว่า 82 เคสและยังคงพัฒนาต่อเนื่อง ทั้งนี้ ล่าสุด นอกจากกลยุทธ์ Greener & Smarter แล้ว บ้านปูยังได้เพิ่มกลยุทธ์ Faster เข้ามาด้วย
สำหรับกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนของบ้านปู เน็กซ์ มีอยู่ทั้งหมด 694 เมกะวัตต์ และนับเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.4 ของกำลังการผลิตพลังงานรวมของบ้านปูทั้งหมดที่ 3,097 เมกะวัตต์ และยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตพลังงานสะอาดให้ถึง 1,600 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตพลังงานรวม 6,100 เมกะวัตต์ ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ยังมีพอร์ตก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานที่เชื่อมโยงไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้น (Bridging Energy) ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 600-700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ
นอกจากนี้ นางสมฤดีกล่าวถึงโอกาสขยายการลงทุนดัานพลังงานสะอาด จากนโยบายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ผลักดันพลังงานสะอาด แน่นอนว่า “ย่อมส่งผลดีในทางอ้อม อย่างมากต่อบริษัท โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าแก๊ส ดังนั้น จะไปได้รับประโยชน์จากปลายน้ำ และสัดส่วนโรงผลิตก๊าซธรรมชาติ และจะเพิ่มขึ้นมา โดยนายโจ ไบเดนจะมุ่งเน้นภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง พร้อมทั้งรถไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งการผลิตไฟฟ้าย่อมมาจากสัดส่วนการใช้พลังงานสีเขียว ที่มุ่งสู่การใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เร็วๆนี้ บ้านปูจะมีการแถลงงบลงทุนใน 5 ปี ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่สิ่งที่คาดการณ์เบื้องต้น สัดส่วนพลังงานสะอาด คือ ญี่ปุ่นจะดำเนินการขายเชิงพาณิชย์ ( COD ) เพิ่ม และเวียดนาม ที่จะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที และจีน จากเดิมมีกำลังผลิตมี170 เมกะวัตต์ บริษัทจะลงทุนเพิ่มเติม ดังนั้น ปีนี้ จะมีงบลงทุนมากขึ้น และส่วนที่เหลือโครงการที่มีจะเเล้วเสร็จในปี 2021
ขณะที่ในประเทศจะมีโซลาร์รูฟในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้ บ้านปู เน็กซ์ ยังคงเดินหน้าแผนพัฒนาภูเก็ตสมาร์ทซิตี้เฟสที่ 1 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่ลดลงแต่เชื่อมั่นว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในไม่ช้า
“ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เป็นตัวเชื่อมสำคัญในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานเชื้อเพลิงที่ต้นทุนต่ำไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนในอนาคต นอกจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติจะสอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทฯ แล้ว ยังเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีจากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสในการลงทุนในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่องและเลือกลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อสร้างรายได้จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ”