CPF ประเดิมมาตรฐาน IPHA 9 โรงงานปลอดภัยไร้ “โควิด”

ซีพีเอฟ

9 โรงงานซีพีเอฟ ผ่านมาตรฐานด้านสุขอนามัย “IPHA” ย้ำความปลอดภัยในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดกระบวนการผลิต

นายสิริพงศ์ อรุณรัตนา ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจสัตว์บก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันวางกรอบการพิจารณามาตรฐาน “IPHA-Industrial and Production Hygiene Administration” เป็นมาตรฐานใหม่ เพื่อมอบให้กับสถานประกอบการที่มีการบริหารจัดการสถานที่ กระบวนการผลิต และบุคลากรตามมาตรการร่วม และมาตรฐานด้านสุขอนามัย ที่มีการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการจัดการเพื่อป้องกันโควิด-19 อย่างชัดเจน

สิริพงศ์ อรุณรัตนา ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจสัตว์บก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

ล่าสุดโรงงานอาหารสัตว์บก โรงงานแปรรูปอาหาร และโรงงานอาหารสำเร็จรูปในเครือซีพีเอฟ 9 โรงงาน เป็นสถานประกอบการกลุ่มแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าว โดยที่ผ่านมาซีพีเอฟมีนโยบายให้ความสำคัญในด้านอาหารปลอดภัย ตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่บริษัทได้ยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด ป้องกันบุคลากร อาคาร สถานที่ ตลอดจนกระบวนการผลิตทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค

“CPF มีการบริหารจัดการป้องกันโรคระบาดอย่างเข้มงวด มีการจัดตั้งทีมบริหารจัดการโรคระบาดทั้งในคนและในสัตว์ ภายใต้ศูนย์อำนวยการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ของบริษัท โดยมีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในอาหารปลอดภัยของบริษัทตั้งแต่ต้นทางจึงถึงปลายทาง ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการ การได้รับการรับรอง IPHA ครั้งนี้จึงช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจได้อีกทางหนึ่ง” นายสิริพงศ์กล่าว

สำหรับซีพีเอฟ ได้วางมาตรการการทำงานด้านป้องกันโรคระบาดดังกล่าวใน 7 หมวดหมู่ ได้แก่ ด้านสาธารณสุข ด้านมาตรการป้องกัน ด้านการจัดซื้อ ด้านการสื่อสารพนักงาน ด้านการสื่อสารสาธารณะ ด้านประสานงานภาครัฐ และด้านการเยียวยา โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันโรคให้ “พนักงาน” เพราะเมื่อพนักงานปลอดภัยก็จะสามารถผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคทุกคนได้อย่างราบรื่น

โดยกำหนดมาตรการสำคัญ เพื่อให้การบริหารจัดการธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 3 ประเด็นคือ

1) ความมั่นคงทางด้านอาหาร ที่บริษัทต้องสามารถเดินสายพานการผลิตอาหารโดยไม่สะดุด เพื่อป้องกันอาหารขาดแคลน

2) ระบบซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ ที่มีการประสานความร่วมมือกับภาครัฐในการจัดการจราจรหากเกิดการล็อกดาวน์ โดยการขนส่งจะต้องสามารถดำเนินการต่อไปได้ ทั้งการขนส่งวัตถุดิบเข้าโรงงานผลิตอาหาร และการขนส่งจนถึงมือผู้บริโภค

3) มาตรการป้องกันโรคในแต่ละขั้นตอน มีการออกประกาศเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติตัวของพนักงานทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนเตรียมความพร้อมด้านจัดซื้อแอลกอฮอล์และหน้ากาก รวมถึงการสั่งการพนักงานบางส่วนให้ work from home และกำหนดให้พนักงานที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงให้กักตัวเอง 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา เป็นต้น

“จากการระบาดรอบแรกจนถึงปัจจุบัน ซีพีเอฟยังคงผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคต่อเนื่อง ทั้งยังได้แบ่งปันมาตรการและเทคนิคบริหารจัดการสถานการณ์ไปยังบริษัทคู่ค้า เกษตรกร และผู้สนใจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประเทศก้าวข้ามสถานการณ์ไวรัสนี้ไปด้วยกัน”