ในบางช่วงบางตอนของการแลกเปลี่ยนความเห็น ระหว่าง นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ได้เข้าร่วมให้ความเห็นหัวข้อ SME Clinic ในแอปพลิเคชั่นคลับเฮาส์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
โดยมีหนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ท่ามกลางมีผู้เข้าร่วมฟัง 8,000 คน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ได้มีการเปิดไมค์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถถามความเห็นจากเจ้าสัวธนินท์โดยตรง เพื่อขอรับคำแนะนำไอเดียนำธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด
คนแรกคือ ผู้ใช้ชื่อ Joe ProPlugin ผู้นำเข้าอุปกรณ์เครื่องดนตรีและอุปกรณ์สำหรับทำคอนเท็นต์ ซึ่งมีผู้ติดตามเค้าถึง 184K (184,000 คน) ที่ต้องการขยายต่อยอดธุรกิจ
เจ้าสัวธนินท์ กล่าวชื่นชมว่า ธุรกิจนี้ถือว่ามาได้ถูกทาง จะเจริญรุ่งเรืองแน่นอน เพราะตอนนี้อุปกรณ์เกี่ยวกับการทำคอนเท็นต์กำลังเป็นเทรนด์ของโลก
“ข้อเสนอแนะ ต้องดูสินค้าพระเอกของเราเป็นหลัก ว่ามีปัญหาหรือไม่ เราต้องมีการเงินพอเลี้ยงธุรกิจไว้ ถ้าจะก้าวเร็วแล้วเงินไม่พอ จะต้องควบรวม ผนึกกำลัง จับมือกัน”
“วิธีผมคือธุรกิจหลักต้องรอด มีกำลังไป ถ้าจำเป็นต้องหาผู้ร่วมทุน มีตัวอย่างที่เค้าทำสำเร็จไหม เพราะ 4.0 เร็วแต่ต้องมีประสิทธิภาพด้วย และหากบางช่วงจำเป็นต้องจำศีลก็ต้องจำศีล เงินไม่พอก็อย่าเพิ่งไปขยายธุรกิจ ผมเคยทำยา เคยทำมอเตอร์ไซค์นั่นไม่ใช่เพราะผมเก่ง แต่เพราะผมหาโอกาสได้”
ขณะที่เอสเอ็มอีรายที่ 2 ใช้ชื่อว่า Mint Sutinee ทำธุรกิจห้องน้ำพกพา ซึ่งดีกรีไม่ธรรมดา เพราะได้รับรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์มาจากประเทศญี่ปุ่น ขายทางออนไลน์ แพ็กละ 5 ชิ้น ราคาประมาณ 600-700 บาท เธอต้องการคำแนะนำในการทำการตลาดเพื่อให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่ธุรกิจเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ นักท่องเที่ยว แต่เมื่อโควิดมา สินค้าห้องน้ำพกพาก็ได้รับผลกระทบ
เจ้าสัวธนินท์ให้คำแนะนำในทันทีเลยว่า
“สินค้านี้มัน “แคบ” จะไปจำกัดกลุ่มเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไม่ได้ ต้องมองหากลุ่มลูกค้าอื่นด้วย และที่สำคัญสินค้านี้มี “คู่แข่ง” เช่นพวกผ้าอ้อมมีบริษัทใหญ่ ๆ ทั่วโลกทำอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เจ้าสัวให้กำลังใจเธอว่าการผลิตสินค้านี้มาถูกทาง เพียงแต่ต้องมองให้ “กว้าง” และต้องพิจารณาว่าสามารถ “ต่อยอด” ธุรกิจได้หรือไม่ และต้องไปดูเรื่องราคาว่าเป็นอย่างไร หากผลิตได้มากขึ้นจะสามารถทำให้ต้นทุนลดลงได้หรือไม่ อาจต้องอาศัยการโฆษณามาช่วยมากขึ้น
หรือธุรกิจของผู้ใช้ชื่อว่า ArLong ที่ทำทัวร์ ซึ่งตอนนี้ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ และเมื่อไปขอความช่วยเหลือจากเงินก็ “ซอฟต์โลน” ก็ได้รับคำตอบว่าบริษัทเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง ทำให้แบงก์ไม่กล้าปล่อยกู้
เจ้าสัวธนินท์ให้ความสนใจธุรกิจนี้ โดยกล่าวว่า จริง ๆ ธุรกิจนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจที่อยากลงทุน เพราะมีอนาคต แต่เราจะต้องเสริมแบบใหม่เข้าไปด้วย
พร้อมทั้งสอบถามเจ้าของถึงต้นทุนกำไรและค่าใช้จ่ายในการดูแลธุรกิจนี้ ซึ่งทางเจ้าของธุรกิจมีขนาดจิ๋วมีพนักงานเพียง 10 คน เฉลี่ยเงินเดือน แล้วจะมีรายจ่ายประมาณเดือนละ 2 แสน กำไรเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วอยู่ที่ 5 แสน ซึ่งเจ้าสัวให้ความเห็นว่าเจ้าของธุรกิจต้องหาทางเปลี่ยนรูปแบบใหม่ เพราะหลังโควิดมันจะโตแบบเท่าทวีคูณ ทั้งยังให้มุมมองว่ารัฐบาลควรหันมาใส่ใจดูแลธุรกิจนี้ เหมือนรัฐบาลอังกฤษที่ดูแลกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวไม่ปล่อยทิ้ง เพราะมองข้ามวิกฤตไปแล้วธุรกิจนี้จะกลับมามีโอกาสอีกครั้ง