ดัน “ธุรกิจแฟรนไชส์” เป็นเรือธง เพิ่ม GDP ให้ประเทศ

ทศพล ทังสุบุตร

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ ดัน “แฟรนไชส์” เป็นธุรกิจเรือธงสร้างมูลค่าตลาด เพิ่ม GDP ให้ประเทศ เตรียมจับมือออนทัวร์นำธุรกิจแฟรนไชส์เสนอผู้ที่กำลังมองหาอาชีพใหม่

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ เพื่อผลักดันให้ ‘แฟรนไชส์’ เป็นธุรกิจเรือธงที่สร้างมูลค่าตลาดและเพิ่ม GDP ภาพรวมให้แก่ประเทศ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.5 แสนล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.7 ของ GDP ทั้งประเทศ

ดังนั้น การผลักดันให้ธุรกิจแฟรนไชส์เติบโตอย่างมีทิศทางและแข็งแกร่ง จะส่งผลถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวมด้วยเช่นกัน

“การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศเกิดการชะลอตัวและหยุดชะงัก ลูกจ้าง พนักงานองค์กรภาคธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และเล็กต่างได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงาน/ลดเงินเดือน กรมฯ และสมาคมฯ จึงเตรียมใช้รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ช่วย ‘สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้’ โดยร่วมกันนำธุรกิจแฟรนไชส์หลากหลายรูปแบบ ขนาด และเงินลงทุน ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเลือกลงทุนนำไปประกอบเป็นอาชีพ”

เบื้องต้น กรมฯ จะประสานภาคธุรกิจที่มีแผนลดอัตรากำลัง ลดจำนวนพนักงาน เพื่อนำธุรกิจแฟรนไชส์เข้าไปเสนอให้ผู้ที่เข้าเกณฑ์การเลิกจ้าง หรือผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจได้เลือกลงทุนประกอบธุรกิจ ทั้งเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม โดยจะมีการให้ความรู้และให้คำปรึกษาถึงรายละเอียดของแต่ละประเภทธุรกิจก่อนการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้เหมาะกับความถนัดของแต่ละบุคคล

นอกจากนี้ กรมฯ และสมาคมฯ จะร่วมกันจัดทำแผนการลงพื้นที่ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อนำธุรกิจแฟรนไชส์ไปเปิดโลกการประกอบธุรกิจแก่กลุ่มเป้าหมายอื่นต่อไป โอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมฯ ดังกล่าวด้วย

นายทศพล กล่าวอีกว่า กรมฯ และสมาคมฯ ยังเห็นพ้องในการจัดเก็บข้อมูล (บิ๊กดาต้า) ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ไทยทั้งระบบ เพื่อเป็นข้อมูลในการจำแนกประเภทและขนาดของธุรกิจ และใช้เป็นข้อมูลในการส่งเสริม พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์แต่ละธุรกิจ ขนาดอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน เนื่องจากแฟรนไชส์แต่ละประเภทต้องการความช่วยเหลือและการพัฒนาที่แตกต่างกัน

ดังนั้น การมีข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์ของประเทศขนาดใหญ่และมีความสมบูรณ์จะช่วยให้ภาครัฐสามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ได้อย่างตรงจุดมากที่สุด รวมทั้ง สามารถใช้เป็นข้อมูลเชิงลึกสำหรับนักธุรกิจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในการนำไปวิเคราะห์ก่อนการตัดสินใจเลือกลงทุนอีกด้วย

ทั้งนี้ กรมฯ และสมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมือกันในทุกๆ ด้านอย่างแนบแน่น เพื่อให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยเป็นธุรกิจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยธุรกิจแฟรนไชส์พร้อมให้การสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศทุกรูปแบบ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจที่ทำให้คนไทยมีความอยู่ดี กินดี และมีความมั่นคงระยะยาว

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564) ธุรกิจแฟรนไชส์ของประเทศไทย มีจำนวนทั้งสิ้น 575 กิจการ แบ่งตามประเภทได้ดังนี้ 1) อาหาร 181 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 31.48) 2) เครื่องดื่ม 136 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 23.65) 3) การศึกษา 101 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 17.57) 4) ค้าปลีก 88 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 15.29) 5) บริการ 44 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 7.66) และ 6) สปาและความงาม 25 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 4.35)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สายด่วน 1570 โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5953 e-Mail : [email protected] และ www.dbd.go.th