เอ็กโก กรุ๊ป เตรียมงบ 1.5 แสนล้านบาท ใน 5 ปี ขยายพอร์ตพลังงานสะอาด

เอ็กโก กรุ๊ป เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานครบวงจร พร้อมขยายพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียนและ Smart Energy Solution ตอบรับกับ เทรนด์พลังงานโลก พร้อมเตรียมงบลงทุนกว่า 150,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ 4I

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า สำหรับปี 2564 เอ็กโก คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมและเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจของเอ็กโก กรุ๊ป โดยทิศทางการทำงาน เอ็กโก ได้เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 150,000 ล้านบาท สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนา รวมถึงการลงทุนในโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ภายในระยะเวลา 5 ปี

ทั้งนี้ หากมองการลงทุนระยะสั้นภายในปี 2564 เอ็กโกคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในพอร์ตโฟลิโอได้ถึง 1,000 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน สหรัฐอเมริกา และโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตให้บริษัทได้

นอกจากนี้ เอ็กโกยังคาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า “ลินเดน โคเจน” สหรัฐอเมริกา โครงการโรงไฟฟ้า “หยุนหลิน” ไต้หวัน ซึ่งจะเริ่มทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 และโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 นี้เช่นกัน

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต เอ็กโก กรุ๊ป ได้ปรับกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยมุ่งขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจทั้งด้านการผลิตและให้บริการด้านพลังงานอย่างครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงและระบบสาธารณูปโภค และธุรกิจ Smart Energy Solution โดยดำเนินการภายใต้ กลยุทธ์ 4I ได้แก่ Invest ลงทุนในสินทรัพย์ที่เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว Improve ปรับปรุงและบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้มีความเป็นเลิศ Innovate ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และ Increase เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการเงินด้วย

“เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงแสวงหาโอกาสในการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะในพลังงานหมุนเวียนและ Smart Energy Solution เพื่อให้สอดรับกับทิศทางของการส่งเสริมพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนของโลก โดยมีแผนเข้าลงทุนในโครงการใหม่ในลักษณะการควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในประเทศเป้าหมายที่มีฐาน การลงทุนอยู่แล้ว เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น”

ล่าสุดเอ็กโก กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการลงทุนในโรงไฟฟ้า “ลินเดน โคเจน” ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 972 เมกะวัตต์ ที่เมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะปิดดีลและรับรู้รายได้ทันทีใน ไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน เป็นสินทรัพย์คุณภาพ ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี ใกล้กับแหล่งจ่ายก๊าซธรรมชาติ จึงทำให้มีต้นทุนเชื้อเพลิงต่ำ รวมทั้งขายไฟฟ้าให้กับรัฐนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์ก ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา และยังมีสัญญาขายไอน้ำและไฟฟ้าระยะยาวกับลูกค้ารายใหญ่ การลงทุนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของเอ็กโก กรุ๊ป ในการเปิดประตูสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในอนาคต

ด้านผลประกอบการในปี 2563 เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การด้อยค่าของสินทรัพย์ การวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า) จำนวน 8,738 ล้านบาท ลดลง 1,630 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16% เมื่อเทียบกับ ปี 2562 โดยสาเหตุหลักมาจากผลประกอบการที่ลดลงของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพาจู โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี โรงไฟฟ้าเคซอน โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 และโรงไฟฟ้าชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2563 จำนวนหุ้นละ 3.50 บาท ทั้งนี้ หากรวมการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2563 จำนวน หุ้นละ 3 บาท จะเป็นการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานสำหรับงวดบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม –31 ธันวาคม 2563 รวมหุ้นละ 6.50 บาท โดยมีกำหนดจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันที่ 19 เมษายน 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 เมษายน 2564