พาณิชย์เปิดเจรจาซื้อขายข้าว คาดภายหลังงานเกิดคำสั่งซื้อรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท

พาณิชย์เปิดเจรจาซื้อขายข้าว คาดภายหลังงานเกิดคำสั่งซื้อรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท งานนี้นำผู้ซื้อต่างประเทศกว่า 200 ราย เข้าเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทย 100 ราย มองจะส่งผลขยายการส่งออกข้าวทั้งปีโต 11 ล้านตันได้

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อเร่งรัดการส่งออก และพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นนโยบายหนึ่งที่ต้องการผลักดันการส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวให้มีการส่งออกที่ขยายตัวและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้งได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์นำคณะผู้นำเข้าเข้าร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจการค้าและการส่งออก คาดว่าภายหลังการจัดงานดังกล่าวจะเกิดคำสั่งซื้อทันที 586 ล้านบาท และคำสั่งซื้อใน 1 ปีอีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ การเจรจาธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว ระหว่างผู้นำเข้าข้าวต่างประเทศและผู้ประกอบการไทยครั้งนี้ มีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเดินทางเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกว่า 200 ราย จาก 25 ประเทศทั่วโลก อาทิ จีน ฮ่องกง แคนาดา สหรัฐอเมริกา ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง อาเซียน และมีผู้ประกอบการไทยกว่า 100 ราย และเชื่อมั่นว่าหลังจากงานนี้ จะสามารถเร่งรัดการส่งออกข้าวของไทย ได้ตามเป้าหมาย 11 ล้านตัน

สำหรับการลงนามความตกลง MOU ระหว่างผู้นำเข้าข้าวต่างประเทศกับผู้ประกอบการไทย มีจำนวน 8 ฉบับ ดังนี้ ฉบับแรก ได้แก่ การลงนามระหว่างบริษัท 759 Store ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและซุปเปอร์มาเก็ตที่มี 224 สาขาทั่วเกาะฮ่องกง กับบริษัท Siam Diamond Export Rice จำกัด เพื่อสั่งซื้อข้าวหอมมะลิไทย จำนวน 10,000 ตัน ฉบับที่สอง ได้แก่ การลงนามระหว่างบริษัท 759 Store ของฮ่องกง กับบริษัท Global Rice Intertrade จำกัด เพื่อสั่งซื้อข้าวกล้อง ข้าวออร์แกนิก และข้าวไรซ์เบอร์รี่ รวมจำนวน 4,000 ตัน โดยบริษัท 759 Store ยังต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อเจาะตลาดภัตตาคารและร้านค้าทั่วไปด้วย

ฉบับที่สาม เป็นการลงนามระหว่างบริษัท Goldmine Rice Marketing จากฟิลิปปินส์ กับบริษัท AKE Ricemill จำกัด โดยจะลงนามสั่งซื้อข้าวขาวไทย 5% จำนวน 5,000 ตัน

ฉบับที่สี่ เป็นการลงนามระหว่างบริษัท Goldmine Rice Marketing จากฟิลิปปินส์ กับบริษัท Asia Golden Rice จำกัด โดยจะลงนามสั่งซื้อข้าวขาวไทย 5% จำนวน 5,000 ตัน ฉบับที่ห้า เป็นการลงนามระหว่างบริษัท All Asian Countertrade จากฟิลิปปินส์ กับบริษัท C.P. Intertrade จำกัด โดยจะลงนามสั่งซื้อข้าวขาวไทย 5% จำนวน 25,000 ตัน

ฉบับที่หก เป็นการลงนามระหว่างบริษัท Goldmine Rice Marketing จากฟิลิปปินส์ กับบริษัท C.P. Intertrade จำกัด โดยจะลงนามสั่งซื้อข้าวขาวไทย 5% จำนวน 5,000 ตัน ฉบับที่เจ็ด เป็นการลงนามระหว่างบริษัท Goldmine Rice Marketing จากฟิลิปปินส์ กับบริษัท Capital Rice จำกัด โดยจะลงนามสั่งซื้อข้าวขาวไทย 5% จำนวน 5,000 ตันและฉบับที่แปด เป็นการลงนามระหว่างบริษัท St. Claire Countertrade จากฟิลิปปินส์ กับบริษัท Oriental Jasmine จำกัด โดยจะลงนามสั่งซื้อข้าวขาวไทย 5% จำนวน 25,000 ตัน

นางอภิรดี กล่าวอีกว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแนวทางเชื่อมโยงตลาดข้าวสี ได้แก่ ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวหอมมะลิดำ (หอมนิล) และข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยในงานครั้งนี้ ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจอีก 1 ฉบับ ได้แก่ การลงนามระหว่างสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. บุรีรัมย์ จำกัด สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. สุรินทร์ จำกัด บริษัท Universal Rice จำกัด บริษัท Asia Golden Rice จำกัด และบริษัท Thai Ha จำกัด (มหาชน) โดยมีนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และอุปนายกสมาคม ผู้ส่งออกข้าวไทยร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้แนวทางการตลาดนำการผลิต (Demand Driven) เพื่อเพิ่มปริมาณและขยายตลาดการรับซื้อข้าวสี

โดยในระยะแรกได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่ 3 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ทั้งนี้จะได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ในทุกภูมิภาคทั่วโลก เร่งสำรวจความต้องการในการบริโภคข้าวสีของผู้บริโภคในต่างประเทศ เพื่อวางแนวทางการดำเนินการจัดกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และคุณประโยชน์ข้าวสีของไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยเร็วต่อไป

สำหรับกรส่งออกข้าว มีมูลค่าส่งออก ในปี 2560 ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 8.23 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3,578 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15.79% จากช่วงเดียวกันของปี 2559 ตลาดส่งออกหลักได้แก่ เบนิน จีน สหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ และแคเมอรูน