ทีมวิเคราะห์ ปตท.คาดราคาน้ำมันโลกปี’61 พุ่งแตะ 55-57 เหรียญ/บาร์เรล

งานสัมมนา 2017 The Annual Petroleum Outlook Forum โดยทีมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของกลุ่ม ปตท. หรือ PRISM ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ทีมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของกลุ่ม ปตท.ระบุ สถานการณ์น้ำมันโลกเป็นการชักเย่อระหว่างกลุ่มโอเปก และสหรัฐ โดยภายหลังสหรัฐเริ่มผลิตเชลล์ออยล์ในปี 2008 ทำให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังผลิตเพื่อแข่งขันในปี 2014 จนกำลังผลิตน้ำมันโลกเริ่มล้นตลาดจนราคาลดลงมาก ปี 2015-2016 กลุ่มโอเปกเริ่มลดกำลังการผลิตและลดกำลังผลิตจนถึงเดือนมีนาคม 2561 โดยทีมวิเคราะห์แนะว่าควรจับตาการประชุมโอเปกและนอนโอเปกวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีการตัดสินใจระหว่าง 3 กรณี คือ ไม่ต่ออายุการลดกำลังผลิตน้ำมัน หรือตัดสินใจขยายเวลาการต่ออายุการลดกำลังผลิตน้ำมันเป็นเดือนมิถุนายน 2561 ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ระดับ 50-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือเลื่อนเป็นเดือนธันวาคม 2561 เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 52-57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพราะปริมาณที่เหมาะสมจะทำราคาขยับขึ้นส่งผลต่อรายได้กลุ่มประเทศโอเปกและนอนโอเปก ขณะที่สหรัฐมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นบวก สร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง

“ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปี 2561 คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ระดับ 52-57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นในกรอบแคบ ความต้องการน้ำมันดิบขยายตัวเป็น 1.4-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจนขยายตัว 3.7%” ทีมวิเคราะห์ระบุ

               

 

ที่มา : มติชนออนไลน์