ส่งออก ก.พ. 64 หดตัว 2.59% มั่นใจไตรมาส 2 ฟื้น

การส่งออก
by STR / AFP

ส่งออกไทยเดือนกุมภาพันธ์ หดตัว 2.59% มั่นใจไตรมาส 2 ดีขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น การแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ทั้งปี ยังมองส่งออกที่ 4%

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีมูลค่า 20,219.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 2.59% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) กลับมามีมูลค่าแตะ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 2.87% สะท้อนการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจดีขึ้น

การนำเข้า มีมูลค่า 20,211.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 21.99% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 7.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ภาพรวม 2 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออก มีมูลค่า 39,925.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวที่ 1.16% การนำเข้า มีมูลค่า 40,120.73 ขยายตัวที่ 6.77% ขาดดุล 195.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออก มาจากภาวะฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากหลายประเทศสามารถแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเร็วขึ้น ภาคการผลิตเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ การฟื้นตัวของภาคการผลิตส่งผลให้ความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อโลก (Global Manufacturing PMI) ที่ปรับตัวดีขึ้นเหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสูงสุดในรอบสามปี

นอกจากนี้ องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2564 ว่าจะขยายตัวที่ 5.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.2% มีปัจจัยสำคัญจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะช่วยเพิ่มอุปสงค์ในสหรัฐฯ และส่งต่อไปยังเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ภาคการผลิตเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ การฟื้นตัวของภาคการผลิตส่งผลให้ความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางเพิ่มสูงขึ้น

สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อโลก (Global Manufacturing PMI) ที่ปรับตัวดีขึ้นเหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสูงสุดในรอบสามปี นอกจากนี้ องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2564 ว่าจะขยายตัวที่ 5.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.2% มีปัจจัยสำคัญจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะช่วยเพิ่มอุปสงค์ในสหรัฐฯ และส่งต่อไปยังเศรษฐกิจโลก

“การส่งออกไทยจากนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น เชื่อว่าจะขยายตัวได้ดีในช่วงไตรมาส 2 ของปีและจะเติบโตมากในเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายน 2564 พร้อมกันนี้ เป้าหมายการส่งออกยังคงมองที่ 4% ซึ่งหากจะส่งออกได้ตามเป้าหมายการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 20,080 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าเด่นที่จะดันการส่งออกไทยโต เช่น ถุงมือยาง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มันสำปะหลัง อาหารสัตว์ ผลไม้ เป็นต้น”

อย่างไรก็ดี การส่งออกของไทยระยะต่อไปคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจาก (1) การกระจายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพในหลายภูมิภาค ทำให้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของคู่ค้าสูงขึ้น (2) แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วยเม็ดเงินมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก (3) ราคาน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้น แตะระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลบวกต่อการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง และ (4) ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงไตรมาสแรก

สำหรับแผนส่งเสริมการส่งออกในปี 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้วางเป้าหมายการส่งออก 3 ด้าน ได้แก่ (1) การส่งออกทั้งปีขยายตัวที่ร้อยละ 4 (2) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

อาทิ สินค้าเกษตรและอาหาร (ร้อยละ 6.64) สินค้านิวนอร์มอล (ร้อยละ 6.81) อุตสาหกรรมหนัก (ร้อยละ 3.76) แฟชั่น (ร้อยละ 2.36) เป็นต้น (3) จัดกิจกรรมร่วมกับแพลตฟอร์มพันธมิตรออนไลน์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา อาเซียน และจีน ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก