50 บริษัทใหญ่ ระดมสมองวางแผนรองรับการกระจายวัคซีนภาครัฐ

วัคซีน
Photo by Hauke-Christian Dittrich / POOL / AFP

หอการค้าไทย ประชุมหารือเพื่อระดมสมองในเครือข่ายกว่า 50 บริษัท ผนึกกำลังภาคเอกชนวางแผนรองรับการกระจายวัคซีน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยจัดประชุมหารือกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในเครือข่ายกว่า 50 บริษัท เตรียมแผนรองรับการกระจายวัคซีนล็อตใหญ่ ที่จะพร้อมฉีดให้แก่ประชาชนในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงในช่วงแรกนั้น ยังถือว่าล่าช้า ดังนั้น การบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าวให้กับประชาชนจำนวนมากในระยะต่อไป จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ เพราะหมายถึงอนาคตการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยหอการค้าไทยจะเข้ามาเป็นจุดเชื่อมต่อภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตามนโยบาย Connect the Dots ที่ได้ประกาศไว้

หอการค้าไทยได้ติดตามการดำเนินงานในเรื่องวัคซีนอย่างใกล้ชิด ทั้งในเรื่องการจัดหาวัคซีน การกระจายไปสู่ประชาชน รวมถึงการสื่อสารทำความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยประเด็นเรื่องจำนวนการสั่งซื้อ เชื่อว่าภาครัฐจะสามารถจัดหาได้อย่างเพียงพอ นอกจากนั้น หากมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ ระยะเวลา และบุคลากรสำหรับการฉีด ซึ่งสถานพยาบาลของรัฐอาจรองรับได้ไม่เพียงพอ ภาคเอกชนก็ยินดีจัดสรรพื้นที่ หรือจัดหาอดีตพยาบาลที่ยังสามารถปฏิบัติงานได้ เพื่อให้การรับบริการของประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว

รวมไปถึงประเด็นการขนส่งวัคซีนซึ่งต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ ภาคเอกชนก็ยินดีสนับสนุน โดยอาจประยุกต์ใช้รถขนส่งสินค้าห้องเย็นมาช่วยในการจัดส่ง อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความกังวลใจของประชาชนถึงผลกระทบหลังการฉีดวัคซีน เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นในวงกว้าง เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งต้องพบปะคนจำนวนมากควรเป็นตัวอย่างให้เห็น ในขณะที่ภาคเอกชน ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่าง ๆ ก็ยินดีที่จะฉีด และช่วยกันสื่อสารทำความเข้าใจกับพนักงานของตน รวมพลังให้เกิดเป็นความเชื่อมั่น

“ในเบื้องต้นนี้ หอการค้าไทยได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทต่าง ๆ ที่แจ้งความจำนงในการฉีดวัคซีนให้กับพนักงาน ได้สำรวจในเชิงลึกถึงจำนวนคนที่สมัครใจฉีด ใครที่ยังมีปัญหาติดขัด และสื่อสารสร้างความเข้าใจร่วมกัน รวมทั้งการสนับสนุนภาครัฐตามความเชี่ยวชาญของภาคเอกชนในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ หอการค้าไทยพร้อมจะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าไปหารือกับภาครัฐ เพื่อเตรียมวางแผนรองรับการกระจายวัคซีนให้พร้อมภายในเดือนเมษายนนี้ และเชื่อมั่นว่า หากเอกชนร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง ก็จะสามารถเติมเต็มช่องว่างของการบริการจากภาครัฐได้ ยิ่งการฉีดวัคซีนทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ เศรษฐกิจของประเทศไทยยิ่งจะฟื้นตัวกลับมาได้เร็วเท่านั้น”