สุพัฒนพงษ์ เฉือนงบเงินกู้โควิด จูงใจคนมีเงินออมจับจ่าย ดันจีดีพี 4%

สุพัฒนพงษ์ เล็ง คลอดมาตรการการดึงเงินคนออม 2-3 แสนล้าน ปั๊มจีดีพีโต 4 % แย้ม ให้เป็น Incentive – คนละเสี้ยว ไม่ใช่ลดหย่อนภาษี ชง ครม.พฤษภาคม มีผลมิ.ย.นี้ ยืนยันเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว 1 ก.ค.64 อ้อน คนรวย ใช้จ่ายเพื่อชาติ

วันที่ 26 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรียกคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ที่มีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นประธาน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการบริหาร และกรรมการกำกับดูแลความเสี่ยงธนาคารกรุงไทย

ร่วมหารือ ก่อนประชุมร่วมกับภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ในวันที่ 28 เมษายนนี้ ว่า รัฐบาลเตรียมการในทุกด้านอยู่แล้วเพื่อแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น การคัดกรอง การรักษาพยาบาลและการจัดเตรียมวัคซีน ส่วนแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ยังไม่ต้องทบทวนใหม่ ต้องรอประเมินสถานการณ์หลังเดือนเมษายน ซึ่งเป็นระยะเวลาของการยกระดับการป้องกันก่อน

“ถ้าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีขึ้น คนไทยมีความมั่นใจมากขึ้นจะทำให้กลับไปเที่ยวได้เหมือนเดิม ดีไม่ดีได้มากกว่าเดิมด้วย ถ้าคนไทยช่วยกัน จีดีพีขยายตัว 4 % ยังพอมีโอกาส”นายสุพัฒนพงษ์กล่าวถึงกรณีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาปรับลดเป้ารายได้ท่องเที่ยว

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ตัวเลขเงินฝากในบัญชีของคนไทยสูงขึ้นหลายแสนล้านบาท ถ้าอยากให้จีดีพีขยายตัว 4 % คนที่มีเงินฝากต้องออกมาใช้จ่าย เพราะเงินฝากที่มีอยู่ 5-6 แสนล้านบาท เท่ากับจีดีพี 3 % ครึ่งหนึ่ง หรือ 1 ใน 3 ช่วยได้ 1 %

“เขา (สถาบันประมาณการขยายตัวทาเศรษฐกิจ) ประเมินจีดีพีไว้ 2.7 % ถ้าได้คนไทยมาช่วยกัน เราประเทศ รักชาติ ช่วยกันใช้ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เอื้ออาทร ดูแลคนที่ด้อยโอกาสกว่า มาช่วยกันใช้จ่าย ก็จะช่วยกลับมาได้”
นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีไว้อยู่แล้ว ในเดือนพฤษภาคมจะอนุมัติและมีผลในเดือนมิถุนายนมีผลบังคับ

ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะดึงเงินออมออกมาใช้จ่ายจะให้เป็นแรงจูงใจ (Incentive) ไม่ใช่การลดหย่อนภาษี แหล่งเงินงบประมาณที่ใช้มาจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 2 แสนล้านบาท

“ยังไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม ยังอยู่ในกรอบวงเงินกู้เดิม อยากให้คนที่มีเงินฝากเยอะได้มีโอกาสมาช่วยชาติกัน ซึ่งจะมี Incentive ให้คนที่มีเงินฝากเยอะขึ้น ได้มาช่วยชาติได้มากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาขอระดับคนละครึ่ง เป็นคนละเสี้ยว คนละค่อน”


นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องทำให้เกิดความมั่นใจก่อนว่า ประเทศไทยควบคุมดูแลการแพร่ระบาดได้ในระดับที่สร้างความเชื่อมั่นได้ ถ้าเกิดความเชื่อมั่นทุกอย่างก็จะคลี่คลายมากขึ้น