“ซีพีเอฟ” ช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีฝ่าวิกฤตโควิด-19 ต่ออายุโครงการ Faster Payment เครดิต 30 วัน ออกไปอีก 6 เดือนถึงกลางปี 64
วันที่ 26 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าว ”ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ได้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ Faster Payment ออกไปอีก 6 เดือน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ สร้างความกังวลให้กับหลายภาคส่วน รวมถึงธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากยอดขายที่กำลังฟื้นตัวต้องหยุดชะงัก ซีพีเอฟ จึงได้ขยายเวลาการดำเนินโครงการ Faster Payment ลดระยะเวลาเครดิตเทอมภายใน 30 วัน จนถึงกลางปีนี้ เพื่อร่วมเสริมสร้างความแกร่งทางการเงินให้คู่ค้าธุรกิจที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยสามารถยืนหยัดฝ่าวิกฤตได้ “
ทั้งนี้ ซีพีเอฟเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เพื่อช่วยเหลือคู่ค้าธุรกิจ SMEs ได้รับเครดิตเทอมภายใน 30 วัน สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถรักษากิจการ ดำเนินธุรกิจ รักษาการจ้างงานได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญช่วยให้ SMEs มั่นใจที่ขยายและปรับแผนธุรกิจรองรับยุคนิวนอร์มอล
นางสาวนฤมล แสงมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็มพี ยูนิฟอร์ม จำกัด ผู้ผลิตชุดยูนิฟอร์มของพนักงานให้กับซีพีเอฟ กล่าวว่า วิกฤตโควิด ทำให้ยอดขายลดลงเกือบ 50% ยาวนานติดต่อกัน 3-4 เดือนส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท
“ตอนที่ได้รับประมูลงานผลิตเสื้อฟอร์มของซีพีเอฟมา ก็กังวลใจว่าต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก โชคดีที่ซีพีเอฟมีโครงการนี้ เป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการ SMEs ทำให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาเร็วขึ้นและแน่นอน ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถผ่านพ้นวิกฤติโควิดได้ และเชื่อว่าการขยายเวลาโครงการ ช่วยให้เรามีความแข็งแกร่ง สามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ได้ และฝ่าวิกฤตได้ดี”
นายเสกภณ บุญเตชะธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขอบคุณ 2562 จำกัด ผู้จัดหาวัสดุและเคมีภัณฑ์ ให้กับซีพีเอฟ กล่าวว่าโครงการ Faster Payment ของซีพีเอฟ เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs เมื่อได้รับเงินรวดเร็วช่วยเสริมสภาพคล่องขอวบริษัทขนาดเล็กให้ดีขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แแน่นอน สามารถลดภาระต้นทุนสินค้า จากการไม่ต้องกู้เงินที่มีดอกเบี้ยสูงมาใช้ดำเนินงาน ช่วยแก้ปัญหาการชำระเงิน และเปิดโอกาสให้ทางบริษัทนำสินค้าใหม่ๆมารองรับความต้องการในตลาด ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายของธุรกิจอีกด้วย
นางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการ ด้านจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทได้ติดตามประเมินผลโครงการ Faster Payment อย่างต่อเนื่อง พบว่า โครงการนี้ช่วยเสริมให้คู่ค้าซีพีเอฟที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ของซีพีเอฟมีความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยเฉพาะการระบาดโควิดระลอกใหม่
“โครงการนี้ช่วยให้คู่ค้าได้รับเงินที่รวดเร็วขึ้น สนับสนุนให้ SMEs ของไทยสามารถประคับประคองกิจการและการจ้างงานในภาวะเศรษฐกิจที่แนวโน้มยังผันผวนได้อย่างเข้มแข็ง”
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังให้การสนับสนุนและแบ่งปันมาตรการ และแนวทางการปฏิบัติในป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้คู่ค้าธุรกิจของซีพีเอฟสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถรักษาสถานภาพการผลิตและการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพปลอดภัยให้กับซีพีเอฟอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะช่วยป้องกันให้ห่วงโซ่การผลิตอาหารของซีพีเอฟดำเนินการได้ไม่หยุดชะงัก