ลุ้นอีก 2 สัปดาห์ ชงผลศึกษาอนุกรรมการฯ เข้าบอร์ดอีวี 13 พ.ค.นี้ “พลังงาน” ชี้ เอกชนยังเดินหน้าขยายสถานีชาร์จได้อิสระ หวังครอบคลุมจำนวนรถอีวีตามแผน
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการประเมินผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซเรือนกระจก จากการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า และคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและแบตเตอรี่เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานได้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประเมินผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซเรือนกระจก จากการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า และคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและแบตเตอรี่เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าขึ้นเป็นครั้งแรก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
โดยได้วางกรอบการทำงาน และมอบการบ้านให้หน่วยงานต่าง ๆ นำไปศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมทั้งในส่วนการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) การจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV charging station) ร
วมถึงผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงโรงกลั่นน้ำมัน และผู้ค้ามาตรา 7 ตามมติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) มีนโยบายจะผลักดันการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ในปี 2578 หลังจากนี้ คณะอนุกรรมการจะมีการติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในเดือน พ.ค.เพื่อจะเสนอบอร์ดอีวีในวันที่ 13 พ.ค.นี้
“เดือนหน้าจะกลับมาอัพเดตกันอีกครั้งว่า แต่ละหน่วยงานไปศึกษาเป็นอย่างไรบ้างในระหว่างนี้ภาคเอกชนที่ต้องการลงทุนขยายสถานีชาร์จอีวีก็สามารถดำเนินการต่อเนื่องตามแผน เพราะทำได้อิสระอยู่แล้ว แต่ต้องมาดูว่าจะต้องมีจำนวนเท่าไร ซึ่งในอนุกรรมการนี้ก็มีตัวแทนจากภาคเอกชนร่วมด้วย”
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการนี้เป็น 2 ใน 4 คณะที่ตั้ง คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เป็นประธาน