กรมเจรจาฯ เผยพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนคืบหน้ากว่าครึ่งทาง

กรมเจรจาฯ เผยที่ประชุมอาเซียน ติดตามการดำเนินการตามพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนไปได้ครึ่งทาง มีความคืบหน้าทุกด้าน

วันที่ 28 เมษายน 2564 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ อาเซียนได้จัดประชุมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ความคืบหน้าครบครึ่งทางการทำงานตามพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 (AEC Blueprint 2025) หลังจากสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้เข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อเดือนธ.ค.2558 โดยอาเซียนได้ประเมินผลการทำงานที่ผ่านมา รวม 23 ด้าน

เช่น การค้าสินค้า การอำนวยความสะดวกทางการค้า การค้าบริการ ทรัพย์สินทางปัญญา และการมีความสัมพันธ์กับประเทศนอกอาเซียนว่าสามารถบรรลุเป้าหมาย ได้มากน้อยเพียงใด ประเด็นใดที่ประสบความสำเร็จ และควรปรับปรุง รวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาและข้อติดขัด โดยคำนึงถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม

ทั้งนี้ จากการหารือ พบว่าการทำงานตามพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนครึ่งทาง มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยในด้านการดำเนินงานให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งเกี่ยวกับการลดเลิกมาตรการภาษี การยกเลิกหรือลดมาตรการที่มิใช่ภาษี การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุน ดำเนินการแล้ว 60.3% (จาก 517 มาตรการที่ต้องดำเนินการ) การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน ผ่านการดำเนินนโยบายการแข่งขันเสรีที่มีประสิทธิภาพการส่งเสริมนวัตกรรม

และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินการแล้ว 42.1% (จาก 337 มาตรการที่ต้องดำเนินการ) การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในสาขาสำคัญ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนในเรื่องการขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และท่องเที่ยว ดำเนินการแล้ว 52% (จาก 734 มาตรการที่ต้องดำเนินการ)

ส่วนการดำเนินมาตรการเพื่อให้อาเซียนสามารถปรับตัวและมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน ผ่านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) การเสริมสร้างความเข้มแข็งและบทบาทของภาคเอกชน การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน และการลดช่องว่างการพัฒนา ดำเนินการแล้ว 43.5% (จาก 131 มาตรการที่ต้องดำเนินการ) และการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาค ผ่านความร่วมมือและการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ดำเนินการแล้ว 54.5% (จาก 33 มาตรการที่ต้องดำเนินการ)

สำหรับผลงานสำคัญของอาเซียน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เช่น การลดภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันของอาเซียน ให้เหลือ 0% ดำเนินการแล้ว 98.6% การใช้งานระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (ASEAN-wide Self-certification) โดยผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนสามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของตนเองเพื่อใช้สิทธิทางภาษีในอาเซียน การเชื่อมโยงและใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Window) เพื่อแลกเปลี่ยนหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์

การลงนามข้อตกลงยอมรับร่วมกันในด้านมาตรฐาน สาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยา อาหารสำเร็จรูป และยานยนต์และชิ้นส่วน การลงนามความตกลงการค้าบริการของอาเซียนฉบับใหม่ ช่วยให้กฎระเบียบด้านบริการของสมาชิกอาเซียนมีประสิทธิภาพ และไม่เป็นอุปสรรคทางการค้าบริการเกินความจำเป็น การจัดทำความตกลงว่าด้วยพาณิชย์เล็กทรอนิกส์ของอาเซียน

เพื่ออำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนและสร้างความเชื่อมั่นในการทำการค้าออนไลน์ และการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็น FTA ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกและจะช่วยขยายโอกาสและสร้างแต้มต่อให้สินค้าไทยในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศ RCEP