พาณิชย์เข้มสกัดสวมสิทธิ์ผลไม้ไทยส่งออกไปจีน

ทุเรียน

“จุรินทร์” มอบหมายให้หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ ติดตามและป้องกันปัญหาการสวมสิทธิ์ผลไม้ไทยส่งออกไปตลาดจีน แนะประชาชนพบเห็นแจ้ง 1569

วันที่ 30 เมษายน 2564 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฎเป็นข่าวว่ามีการนำผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้านสวมสิทธิ์ผลไม้ไทยส่งออกไปยังประเทศจีน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร และกรมศุลกากร ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร

โดยในส่วนกรมการค้าภายในได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจสุ่มตรวจสอบการส่งออก และกรมการค้าต่างประเทศได้เข้มงวดการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ซึ่งกรมวิชาการเกษตร และกรมศุลกากรได้เข้มงวดการตรวจรับรองและการตรวจปล่อย รวมทั้งได้ตรวจสอบข้อมูลการส่งออกกับหน่วยงานของประเทศปลายทาง เพื่อป้องกันไม่ให้มีพฤติกรรมการสวมสิทธิ์ผลไม้ส่งออกไปยังประเทศจีน ทั้งนี้ หากพบเบาะแสขอได้โปรดแจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569

มังคุด

ส่วนกรณี พริกเขียวมันภาคใต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ นายวิชัย โภชนกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อประสานการแก้ไขปัญหาราคาพริกตกต่ำ ซึ่งพบว่า พริกที่เป็นปัญหาคือ พริกขี้หนูพันธุ์ดวงมณี ในพื้นที่เรียกพริกเขียวหัวไทร หรือพริกเขียวมัน ซึ่งเพาะปลูกในจังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช ในเขตพื้นที่อำเภอสิงหนคร สทิงพระ กระแสสินธุ์ ระโนด หัวไทร เชียรใหญ่ และปากพนัง

ผลผลิตส่วนใหญ่ส่งออกไปประเทศมาเลเซียเป็นหลัก ไม่ได้ใช้บริโภคในประเทศ ปกติราคาหน้าสวนจะอยู่ที่ประมาณ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้า ทำให้ชะลอการสั่งซื้อพริกจากประเทศไทย ส่งผลให้มีพริกตกค้างอยู่ในสวนของเกษตรกร และราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงเหลือ 8 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนค่าจ้างเก็บเกี่ยวซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8-10 บาทต่อกิโลกรัม

ในเรื่องนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปช่วยเชื่อมโยงตลาด โดยให้ห้องเย็น ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการเข้าไปช่วยรับซื้อในราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม และกรมการค้าภายในสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลืออีก 5 บาทต่อกิโลกรัม กำหนดเป้าหมาย 3,000 ตัน โดยจะนำร่องก่อน 3 เดือนแรก 1,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้า และจะช่วยบรรเทาปัญหา ให้เกษตรกรในสถานการณ์วิกฤตนี้

เงาะ