จีนอ้าแขนรับทุเรียนผลไม้ไทยอีกไม่อั้น ปลดล็อกเส้นทาง เพิ่มด่านนำเข้าตงซิง

มนัญญาสั่งกรมวิชาการเกษตร เสริมคนเพิ่มเวลาทำงานเต็มพิกัดดันส่งออกทุเรียนไทยไปจีนลื่นไหลไม่ถึง 4 เดือนยอดขายพุ่งแล้วกว่า 2 แสนตัน มูลค่าทะลุ 2 หมื่นล้านบาท ชี้จีนนำเข้าผลไม้จากประเทศไทยมากกว่าถึง 22 ชนิด สร้างรายได้ให้แก่ประเทศคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท/ปี เกษตรฯ เผยปีนี้จีนอ้าแขนรับเต็มที่ประกาศเพิ่มทะเบียนสวนทุเรียน GAP และโรงคัดบรรจุ GMP ในเว็บไซต์ พร้อมเคลียร์เส้นทางเพิ่มด่านตงซิงนำเข้าฉลุยอีก 1 ด่าน

วันที่ 30 เมษายน 2564 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่าในปี 2564 นี้นับเป็นปีทองของการส่งออกทุเรียนไทยไปจีน เนื่องจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันผลักดันให้มีการส่งออกผลผลิตที่มีคุณภาพให้เป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้าของจีนอย่างเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งการดำเนินงานในส่วนที่เป็นภารกิจของกรมวิชาการเกษตรได้รับนโยบายจาก นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรทั่วประเทศ เพื่อปฏิบัติงานตรวจสอบและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชในพื้นที่ภาคตะวันออกกว่า 40 คน

พิเชษฐ์ วิริยะพาหะ

พร้อมเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานพื้นที่ภาคตะวันออกของกรมวิชาการเกษตรทั้งหมดให้ร่วมกันปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกสนับสนุนการส่งออกให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความคล่องตัวมากขึ้น ทั้งการตรวจสอบความแก่-อ่อนของทุเรียน ควบคู่ไปกับการตรวจสอบศัตรูพืชและการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 ของโรงคัดบรรจุ

ตลอดจนตรวจสอบการใช้ใบรับรอง GAP ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการสวมสิทธิ์ รวมทั้งได้ขยายระยะเวลาการปฏิบัติงานตรวจปิดตู้ทุเรียนจากเดิม 19.00 น. เป็น 23.00 น.ทุกวัน ทำให้ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลผลิต จนถึงขณะนี้สามารถส่งผลผลิตทุเรียนส่งไปจีนได้ปริมาณ 12,000 ตู้ หรือประมาณ 216,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 21,600 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 100 บาท/กก.)

โดยผลผลิตทุเรียนจะออกมากที่สุดระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม ซึ่งจากการที่กรมวิชาการเกษตรได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานและขยายเวลาในการปิดตู้ทำให้สามารถตรวจรับรองการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยในช่วงระว่างวันที่ 20-29 เมษายน 2564 ผลผลิตทุเรียนที่ส่งออกไปจีน มีจำนวนถึง 4,974 ชิปเม้นท์มากกว่าปี 2563 ในช่วงเวลาเดียวกันที่มีการส่งออก 3,298 ชิปเม้นท์ ซึ่งเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 75 ทั้งนี้ราคารับซื้อทุเรียนหมอนทอง ณ วันที่ 30 เม.ย. 2564 อยู่ที่  90-100 บาท/กก.

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตลาดจีนถือเป็นตลาดส่งออกผลไม้ที่สำคัญของไทย โดยอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากประเทศไทยมากกว่าถึง 22 ชนิด สร้างรายได้ให้แก่ประเทศคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท/ปี ดังนั้นคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราสามารถรักษาตลาดไว้ได้

โดยไทยและจีนมีข้อตกลงเงื่อนไขการนำเข้าและส่งออกผลไม้ที่ต้องปฏิบัติร่วมกัน คือ ผลผลิตจะต้องมาจากสวนที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GAP และคัดบรรจุในโรงงานผลิตสินค้าพืชที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามมาตรฐาน GMP โดยกรมวิชาการเกษตรได้จัดส่งข้อมูลทะเบียนสวนทุเรียนที่ได้รับการรับรองทั้งหมดส่งให้จีนประกาศในเว็บไซต์ของจีนแล้ว รวมจำนวนทั้งสิ้น  38,767 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีจำนวน 30,076 ราย ส่วนโรงงานคัดบรรจุ GMP ที่ได้แลกเปลี่ยนทะเบียนและประกาศรายชื่อในเว็บไซต์ของจีนแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 1,587 โรงงาน

“ทั้งนี้ที่ผ่านมาจีนได้เปิดด่านอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากไทยได้จำนวน 3 ด่านคือ ด่านโม่หัน ด่านโหย่วอี้กวน และด่านรถไฟผิงเสียง แต่ในขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้รับแจ้งข่าวดีว่าสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้อนุญาตให้นำเข้าผลไม้สดของไทยที่ด่านตงซิงได้แล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2564 เป็นต้นไป

ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ไทยได้รอคอยมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ภายหลังจากที่กรมวิชาการเกษตรและสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ได้ประสบความสำเร็จในการเจรจา “ร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างไทยและจีน” กับสำนักงานศุลกากรของจีนเมื่อเดือนเมษายน 2563

นำไปสู่การปลดล็อกเส้นทางการขนส่งผลไม้ไปจีนและไทยได้ด่านนำเข้าและส่งออกผลไม้ไปจีนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ส่งออกผลไม้ไปจีนช่วยแก้ปัญหารถติดสะสมบริเวณหน้าด่านโหย่วอี้กวน โดยเฉพาะในฤดูกาลส่งออกทุเรียนในขณะนี้” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว