สรท.ปรับเป้าส่งออกทั้งปีโต 8% แนะจับตาสถานการณ์โลก-ค่าเงินบาท

Shipping containers are seen at the cargo terminal area of Tokyo port on October 6, 2015. Japanese Prime Minister Shinzo Abe hailed a deal to create the world's largest free trade area October 6 as the start of a "new century" for Asia, and expressed hope China might one day join the historic accord. AFP PHOTO / KAZUHIRO NOGI

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือสภาผู้ส่งออกฯ กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกฯปรับคาดการณ์ส่งออกทั้งปี 2560 อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 8% จากเดิมที่มองขยายตัวอยู่ที่ 3.5-5% ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่ผ่านมาขยายตัวไปได้ดี ราคาสินค้าเกษตร ปรับตัวดีขึ้น การส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวดี ตลาดผู้นำเข้าขยายตัว ทั้ง จีน ญี่ปุ่น อาเซียน เป็นต้น ประกอบกับเศรษฐกิจโลกปรับตัวดี มีผลให้ภาพการส่งออกไทยขยายตัว อีกทั้งจับตาการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะมีผลกระทบต่อค่าเงินบาท

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการส่งออกไทย คือ นโยบายของผู้สมัครประธานธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งจะมีผลให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น มาตรการการกีดกันทางการค้าหลัก เช่น สหรัฐ จีน การเคลื่อนย้ายแรงงาน สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี หลังรัสเซียออกมาประกาศการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เป็นต้น อีกทั้งประเด็นที่ผู้ส่งออกยังต้องติดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกาศกระทรวงแรงงาน กฎหมาย Buy America และท่าทีการเข้าร่วมประชุมเอเปคของสหรัฐ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่จะมีผลต่อการส่งออกไทยในอนาคต

อย่างก็ดี สภาผู้ส่งออกมีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันการส่งออก คือ การกำกับดูแลค่าเงินบาทให้เสถียรภาพ กฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาจจะมีผลต่อการส่งออก ดังนั้น ต้องการให้เอกชนมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักเกณฑ์ รัฐบาลต้องลดอุปสรรค และอำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศ และต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการเจรจาการค้าเสรี ทั้งกรอบเดิมและกรอบใหม่

               

สำหรับตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน 2560 มีมูลค่า 21,812 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 12.2% ขยายตัวสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงสุดในรอบ 56 เดือน ขณะที่การส่งออก 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน 2560) ของปี มีมูลค่า 175,435 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่ส่งออกได้ดี เช่น ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ผัก ผลไม่สด แช่แข็ง และแปรรูป เป็นต้น