“วิน” สหวิริยาฯ ประเมินราคาเหล็ก ขาขึ้นลากยาวอีก 2 ปี

ภาพ pixabay

อุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกยังขาขั้น “วิน วิริยประไพกิจ” CEO สหวิริยาสตีลอินดัสตรีประเมินราคาเหล็กขาขึ้นลากยาว 1.5-2 ปี ดันผู้ผลิตมีกำไร เตรียมหารือผู้ประกอบก่อสร้างรายย่อยหลัง กระทรวงพาณิชย์ เปิดทางช่วย Business Matching จ่อ พบ “สุริยะ” กระทุ้งแผนพัฒนาเหล็ก 4.0 หลังค้างอยู่ 2 ปี

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI เปิดเผยว่า จากแนวโน้มของตลาดโลกโดยเฉพาะในตลาดที่มีระดับเศรษฐกิจเติบโตมากอย่างสหรัฐฯ จีน และยุโรป บวกกับนโยบายการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างพื้ฐานต่างๆ ของแต่ละประเทศ ทำให้ราคาเศษเหล็กปัจจุบันอยู่ที่ 500 เหรียญสหรัฐต่อตันจากเดิม300เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งจะส่งผลให้ดันราคาเหล็กบางประเภทขึ้นไปอีก คาดว่าจะลากยาวไป 1.5-2 ปี ซึ่งถือเป็นขาขึ้นของอุตสาหกรรมเหล็ก

แต่ทั้งนี้มันส่งผลกระทบผู้ประกอบก่อสร้างรายย่อย ดังนั้นเร็วๆ นี้กระทรวงพาณิชย์ จะหารือกับภาคเอกชนเพื่อแก้ปัญหาผลกระทบราคาเหล็กที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นให้กับผู้ประกอบก่อสร้างรายย่อย โดยจัดให้มีการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นตัวแทนผู้ใช้ กับกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นตัวแทนฝั่งผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็ก เพื่อจะได้ประสานเชื่อมโยงการซื้อขายโดยตรง ลดการผ่านคนกลาง 

นอกจากนี้ 7สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็ก เตรียมหารือกับ กระทรวงอุตสากรรม เพื่อขอทบทวนแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก 4.0 ภายในเดือน มิ.ย. นี้  หลังจากแผนนโยบายดังกล่าวการหารือค้างไว้มาถึง 2 ปี ซึ่งการหารือเพื่อเสนอแนวทางการสร้างสมดุลระหว่างต้นน้ำ (โรงถลุงเหล็ก วัตถุดิบ) และกลางน้ำ (ผู้ผลิตโรงเตาหลอม โรงรีด)

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สหวิริยาฯ เอง ปี 2564 นี้ตั้งเป้าผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนให้ได้ 1.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20% ในส่วนของกำไรยังไม่สามารถประเมินได้แต่สำหรับปี 2563 ที่ผ่านมา สหวิริยาฯ ทำกำไรได้ 200 ล้านบาท หลังจากขาดทุนถึง 500 ล้านบาทในช่วงโควิด-19 (มี.ค.-ต.ค.)