ปตท. เร่งจัดหาก๊าซรับมือโรงไฟฟ้าถ่านหินหยุดผลิต มั่นใจไม่กระทบการผลิตไฟฟ้า

ปตท. ประสาน กฟผ. เร่งจัดหาก๊าซรองรับโรงไฟฟ้าถ่านหินหยุดผลิตนอกแผน ตั้งแต่ 7 พ.ค. มั่นใจไม่กระทบเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า

วันที่ 19 พฤาภาคม 2564 นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ปตท. ได้เร่งจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ตามสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ ที่เพิ่มมากขึ้น จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและเหตุการณ์หยุดผลิตที่ไม่เป็นไปตามแผนของโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 4 โรง กำลังการผลิตรวม 2,750 เมกะวัตต์ ทยอยหยุดผลิตนอกแผนตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้าทดแทน ประมาณ 450 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด

ปตท. จึงได้ประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถึงแผนการใช้ก๊าซฯ และเรียกรับก๊าซฯ เพิ่มเติมตามศักยภาพจากผู้ผลิตก๊าซฯ ในอ่าวไทยและเมียนมา พร้อมทั้งบริหารจัดการ LNG เพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ เพื่อให้ปริมาณก๊าซฯ เพียงพอต่อความต้องการ ไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อประเทศ เนื่องด้วยราคา LNG ในสัญญาระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 6.5 – 7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู ในขณะที่ราคา Spot LNG ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 8.5 – 10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู

“ปตท. ยังคงยึดมั่นหน้าที่ในการดูแลความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ จัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอต่อความต้องการ ไม่ให้มีผลกระทบต่อพลังงานด้านการผลิตไฟฟ้า ด้วยราคาที่เหมาะสม” นายอธิคม กล่าว