พาณิชย์แนะรุกตลาดอินเดีย ชูธุรกิจบริการกระตุ้นยอดค้า

อินเดียเปิดกว้างรับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาด มีปัญหาการเก็บรักษา “กรมการค้าต่างประเทศ” เผยช่องทางการค้าการลงทุนในอินเดียเพียบ พร้อมเตรียมจัดสัมมนาซีรีส์ 4 “มองอินเดียใหม่ ความท้าทายและโอกาสที่คาดไม่ถึง” 21 พ.ย.นี้

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 กรมการค้าต่างประเทศเตรียมจัดสัมมนาซีรีส์ 4 “มองอินเดียใหม่ ความท้าทายและโอกาสที่คาดไม่ถึง” โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และช่องทางการทำการค้าในอินเดียที่น่าสนใจ เนื่องจากรัฐบาลอินเดียมีนโยบายดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้าไป โดยอำนวยความสะดวกและให้สิทธิพิเศษอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการจัดให้รัฐคุชราตเป็นรัฐต้นแบบการทำการค้า การลงทุนจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันนักธุรกิจไทยยังเข้าไปลงทุนน้อย ขณะที่อินเดียมีช่องทางการค้า การลงทุนอีกมาก โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า นอกจากขายในอินเดียแล้ว ยังได้ตลาดใกล้เคียงคือกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ทั้งบังกลาเทศ ปากีสถานด้วย โดยจะได้สิทธิพิเศษการส่งออกภาษีเป็น 0% จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปลงทุน

ปัจจุบันมีต่างชาติเข้าไปลงทุนในอินเดียจำนวนมาก เพราะเป็นตลาดใหญ่มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ด้านการค้า การส่งออก และเศรษฐกิจมีสัญญาณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวประมาณ 7-8% ล่าสุดญี่ปุ่นได้เข้าไปลงทุนรถไฟความเร็วสูง แต่หากพิจารณาภาพการลงทุนของไทยมีเพียงบริษัทขนาดใหญ่เพียงไม่กี่รายที่เข้าไป เช่น บริษัท ซี.พี. บริษัทอิตาเลียนไทย และโรงแรมดุสิต เป็นต้น ขณะที่อินเดียมีความต้องการอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งอินเดียมีผลผลิตจำนวนมาก ล้นตลาด มีปัญหาการเก็บรักษาและการขนส่ง จึงต้องการนักลงทุนกลุ่มนี้มาก แต่การไปลงทุนต้องดูความพร้อม สิทธิพิเศษของแต่ละรัฐให้ดี เนื่องจากช่องทางโอกาสไม่เหมือนกัน

“คนอินเดียนิยมสินค้าไทยหลายอย่าง เช่น กลุ่มของซอสปรุงซึ่งนิยมกันมาก ในห้างโมเดิร์นเทรดจะมีชั้นวางสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย เนื่องจากอินเดียให้ความมั่นใจในคุณภาพสินค้าไทย จึงมีช่องทางการเติบโตอีกมาก รวมถึงร้านอาหาร การนวดสปาไทย แหล่งท่องเที่ยวไทย และต่อปีมีคนอินเดียมาเที่ยวไทยจำนวนมาก มากกว่าคนไทยไปเที่ยวอินเดียด้วยซ้ำ ส่งผลให้เกิดการลงทุนด้านบริการ เช่น ร้านนวด ร้านอาหาร ภายในอินเดียโดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารไทย มีคนอินเดียเป็นเจ้าของร้านประมาณ 60 ร้าน แต่มีคนไทยเป็นเจ้าของเพียง 6 ร้านเท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม การเข้าไปลงทุนงานด้านบริการของนักลงทุนต่างชาติในอินเดียมีข้อจำกัดเรื่องกฎหมายแรงงานซึ่งยังเป็นอุปสรรค โดยเฉพาะงานร้านนวดสปา มีข้อกำหนดว่า หากจ้างแรงงานต่างชาติเข้าไป ทางร้านต้องจ่ายค่าแรงให้ในราคาสูง ซึ่งกลายเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ รวมถึงการลงทุนห้างโมเดิร์นเทรดมีข้อจำกัดในเรื่องของการบริหารจัดการ เป็นต้น ปัจจุบันกลุ่มห้างโมเดิร์นเทรดส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของนักลงทุนภายในอินเดียเอง

รายงานข่าวระบุว่า การค้า การส่งออกระหว่างไทย-อินเดีย อินเดียนับเป็นคู่ค้าอันดับที่ 15 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ และสินค้าส่งออกที่สําคัญของไทยไปอินเดีย ได้แก่ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่อง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น

ส่วนสินค้านําเข้าที่สําคัญของไทยจากอินเดีย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องเพชรพลอยอัญมณีเงินแท่งและทองคํา ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งแปรรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น