ปูดขาย “ใบรับรอง” ซื้อข้าวโพด ลือสนั่นวงการหลังยอดนำเข้าข้าวสาลีพุ่ง

ลือหึ่งผู้ผลิตอาหารสัตว์เล่นเกมซื้อขาย “ใบรับรองโควตารับซื้อข้าวโพด 3 ส่วน นำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน (มาตรการ3 : 1) ต้นเหตุยอดนำเข้าข้าวสาลียังพุ่ง เดือนละ 2.4 แสนตัน “พาณิชย์” ยืนกรานไม่เลิกมาตรการ 3 : 1 ด้านโรงสีชี้ราคารำ-ปลายดิ่งเหลือตันละ 600 บาท ต่ำสุดในรอบ 3 ปี

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า หลังจากกรมการค้าภายในเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาให้ความเห็นประกอบการพิจารณาจะยกเลิกมาตรการบังคับให้ซื้อข้าวโพด3 ส่วน เพื่อนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน หรือ (มาตรการ 3 ต่อ 1) และปรับขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลี 27% แทน แต่ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป และมีแนวโน้มคงการใช้มาตรการ 3 : 1 ต่อไป เพราะเกรงว่าการขึ้นภาษีจะกระทบต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์และการผลิตอาหาร

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าไม่มีแนวคิดจะยกเลิกมาตรการดังกล่าวอย่างแน่นอน ขอให้ผู้รับซื้อ และเกษตรกรอย่าวิตกกังวล

“นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงเกษตรกรอย่างมากจึงเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาวิธีอื่นเข้ามาดูแลชาวไร่ข้าวโพดเพิ่มเติม กรมการค้าภายใน ในฐานะฝ่ายเลขาฯคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชุมกำหนดมาตรการรักษาเสถียรภาพราคารองรับผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูการผลิต 2560/2561 ที่กำลังจะออกสู่ตลาดเพิ่มเติมจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบไปก่อนหน้านี้”

พร้อมกันนี้ กรมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์รับซื้อ ให้ได้ระดับราคาที่เหมาะสมตามระดับความชื้น เพื่อไม่ให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ และดูแลมาตรฐานเครื่องชั่งถูกต้อง ทั้งนี้ หากพบพฤติกรรมไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งที่สายด่วน 1569 ได้

ด้านแหล่งข่าวจากวงการพืชไร่ตั้งข้อสังเกตว่า ในปี 2557 ไทยนำเข้าสาลี 1.5 ล้านตัน แต่ในปี 2558 และ 2559 มีการนำเข้าปีละกว่า 4.5 ล้านตัน สูงกว่าปกติ ปี 2554-2557 ถึง 300% และแม้ว่าในปี 2560 จะมีมาตรการกำหนดสัดส่วน 3 ต่อ 1 ยังมีการนำเข้าในช่วง 9 เดือนสูงเฉลี่ยเดือนละ 2.4 แสนตัน หากรัฐบาลปล่อยต่อไป คาดว่าทั้งปี 2560 จะมีการนำเข้า 3 ล้านตัน โดยล่าสุดทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยแจ้งนำเข้าในเดือนพฤศจิกายนอีก 2 ลอต ปริมาณรวม 139,000 ตัน

“มีกระแสข่าวในวงการว่าเหตุที่มียอดนำเข้าข้าวสาลีเพิ่มมากขึ้น เพราะมีการซื้อขายใบรับรองโควตารับซื้อข้าวโพด 3 : 1 โดยผู้ประกอบการอาหารสัตว์บางราย เพื่อจะนำเอกสารนี้ไปใช้แสดงการขอนำเข้าข้าวสาลี ทำให้เกษตรกรไม่สามารถจำหน่ายข้าวโพดได้ในราคาที่รัฐตั้งไว้ กก.ละ 8 บาท ในส่วนของเกษตรกรที่จะได้ราคานี้เฉพาะข้าวโพด เกรด A+ ที่ผู้ซื้อล็อกสเป็กไว้ ซึ่งมีสัดส่วนน้อยมาก”

ด้านแหล่งข่าวกลุ่มโรงสี กล่าวว่า การให้นำเข้าข้าวสาลีส่งผลกระทบต่อราคารำข้าวและปลายข้าว ลดลงเหลือตันละ 600-700 บาท ต่ำสุดในรอบ3 ปี หรือ กก.ละ 6-7 บาทจากที่เคยสูงกก.ละ 9-11 บาท โดยปกติข้าวเปลือก 1,000 กิโลกรัมจะสีได้รำข้าว 90 กิโลกรัม หากขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลีจะช่วยทำให้ราคารำและปลายข้าวปรับเพิ่มขึ้น หากราคารำและปลายขึ้นอีก กก.ละ 1 บาท จะช่วยยกระดับราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นตันละ 300 บาทขึ้นไป อีกด้านหนึ่งการนำเข้าข้าวสาลีทำให้ราคาเบเกอรี่ถูกลง คนรุ่นใหม่จะยิ่งหันไปบริโภคเบเกอรี่มากขึ้นลดการบริโภคข้าวลง จะกระทบต่อราคาข้าวสารด้วย

“การปรับขึ้นภาษีนำเข้า 27% จะส่งผลดีกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลังโดยตรง ซึ่งการเก็บภาษีนำเข้ามีการใช้กันทุกประเทศ ไม่กระทบต่อผู้ผลิต เพราะถึงแม้ว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้เลี้ยงสัตว์เป็นกลุ่มในห่วงโซ่การผลิตเดียวกันสามารถยื่นขอภาษีคืนได้ นอกจากนี้ ไทยยังไม่มีระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้าขาเข้า เหมือนบางประเทศที่มี VAT 10-25% ขึ้นไป”