ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ หนีตลาดในประเทศซบเซา จับมือโรงกลั่นน้ำมัน ทดลองค้าส่งก๊าซ LPG 70 ตันไปเมียนมา เล็งอนาคตจับมือพันธมิตรนำเข้าก๊าซเอง หากต้นทุนถูกกว่าซื้อในประเทศ
นายนพวงศ์ โอมาธิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP Energy เจ้าของแบรนด์เวิลด์แก๊ส เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายหลังจาก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
ที่ตลาดค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในประเทศซบเซา โดยเฉพาะการจำหน่ายในภาคขนส่งที่ยอดขายลดลงต่อเนื่องถึงร้อยละ 10 เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงอย่างมาก อยู่ที่
ระดับ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ผู้บริโภคหันไปเติมน้ำมันแทนมากขึ้นนั้น จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทดับบลิวพีฯต้องขยายตลาดไปยังเพื่อนบ้านมากขึ้น เช่น ประเทศในกลุ่ม CLMV โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ เริ่ม “ทดลอง” ค้าส่งก๊าซ LPG ไปยังประเทศเมียนมา เพื่อรองรับความต้องการ สำหรับปริมาณก๊าซ LPG ที่เริ่มส่งออกประมาณ 60-70 ตัน ซึ่งใช้รถบรรทุกของบริษัทดับบลิวพีฯที่ได้มาตรฐาน โดยมีต้นทางการขนส่งคือจากโรงกลั่นน้ำมันในภาคตะวันออก ไปจนถึงผู้ใช้ปลายทางที่ประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ การทดลองส่งออกทำให้รู้ว่าต้องบริหารต้นทุนการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างวิธีการเพื่อให้ใช้ประโยชน์ระบบขนส่งให้คุ้มค่า เช่น ในระหว่างทางอาจเพิ่มการขนส่งระหว่างจังหวัด โดยอาจจะรับก๊าซ LPG จากคลังในจังหวัดขอนแก่นไปยังจังหวัดอื่น ๆ เป็นต้น สำหรับตลาดก๊าซ LPG ในเมียนมา มองเป็นโอกาสและจุดเริ่มต้นที่ดี และเชื่อมั่นว่า ในอนาคตบริษัทดับบลิวพีฯจะสามารถขยายไปยังประเทศอื่นได้อีก ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว เวียดนาม
“ต้องหาตลาดเพิ่ม ในประเทศเพื่อนบ้านเรามองเป็นโอกาสทั้งหมด เพราะคาดการณ์ว่าประเทศในกลุ่ม CLMV เศรษฐกิจในประเทศค่อนข้างขยายตัว ฉะนั้นความต้องการใช้พลังงานก็จะปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน”
นายนพวงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทดับบลิวพีฯอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ 3 เรื่อง คือ 1) ศึกษาการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การลงทุนสร้างโรงงานผลิตถังก๊าซ LPG เอง 2) การใช้ประโยชน์คลังก๊าซในภูมิภาคร่วมกับพันธมิตรเพื่อลดต้นทุน เช่น ในบางพื้นที่บริษัทดับบลิวพีฯอาจจะไม่มีคลังก๊าซ ในขณะเดียวกันพันธมิตรก็อาจจะไม่มีคลังในบางพื้นที่เช่นกัน ก็สามารถมาใช้
ประโยชน์จากคลังร่วมกันได้ และ 3) ศึกษาการนำเข้าก๊าซเองในอนาคต ตามนโยบายของกระทรวงพลังงานที่เปิดเสรีการนำเข้าก๊าซ LPG โดยได้เริ่มหารือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศแล้ว ซึ่งในกรณีที่คำนวณแล้วพบว่าการนำเข้าจากต่างประเทศได้ราคาต่ำกว่าการซื้อในประเทศจึงจะพิจารณาอีกครั้ง