GC ลุ้น เนเจอร์เวิร์ค ประเทศสหรัฐ เดินหน้าลงทุนนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์หลังได้บีโอไอแล้ว ย้ำดีลใหญ่กับ allnex หนุนปี 64 โตตามเป้า 8-10% เสริมศักยภาพธุรกิจผลิตภัณฑ์ Coating Resins ร่วมกัน
วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยความคืบหน้าการลงทุนโครงการพลาสติกชีวภาพหรือไบโอคอมเพล็กซ์ของบริษัท เนเจอร์เวิร์ค ประเทศสหรัฐ ภายใต้โครงการไบโอคอมเพล็กซ์แห่งแรกของประเทศไทย จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เรียบร้อยแล้วนั้น คาดว่าในอีก 1-2 เดือน ความชัดเจนของการลงทุนดังกล่าวจะถูกเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ดเนเจอร์เวิร์ค) เพื่ออนุมัติตามขั้นตอน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นการผลิตโพลีแลกติก แอซิด ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายประเภท เช่น การนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใส่อาหารเพื่อการบริโภค ผ้าเช็ดทำความสะอาด หน้ากากอนามัย คาดว่าจะมีการผลิตพีแอลเอปีละ 75,000 ตัน มูลค่าการลงทุน 15,000 ล้านบาท ใช้วัตถุดิบในประเทศคือน้ำตาลปีละ 110,000 ตัน
สำหรับการลงนามในสัญญาซื้อขายกิจการ Allnex Holding GmbH (“allnex”) กับ Allnex Holdings S.à.r.l and Allnex S.à.r.l, (“ผู้ขาย”) ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การบริหารของ Advent International (“Advent”) เป็นการดำเนินการตามเป้าหมายกลยุทธ์ของ GC เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตด้วยกลยุทธ์ Step Out ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและการแสวงหาโอกาสเพื่อสร้างการเติบโตในต่างประเทศ และกลยุทธ์ Step Up ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนด้วยการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance : ESG)
และยังถือเป็นดีลที่มูลค่ามากที่สุดในการเข้าซื้อกิจการของ GC นับเป็นดีลประวัติศาสตร์ ซึ่งในปี 2564 นี้ยังคงการศึกษาโอกาส M&A โครงการอื่น ๆ ที่เป็น HVB แต่คงจะไม่มีมูลค่าใหญ่เท่า allnex
ซึ่ง allnex เป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Coating Resins allnex ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มสารเคลือบและสารเติมแต่งสำหรับใช้กับวัสดุทุกประเภท เช่น ไม้ เหล็ก พลาสติก เป็นต้น ซึ่งก็เป็นกลยุทธ์ที่ GC จะเดินไป ทั้งนี้ allnex มีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านยูโร หรือ 74,167.2 ล้านบาท มีเครือข่ายโรงงานการผลิตที่ทันสมัย 33 แห่งใน 18 ประเทศ ศูนย์การวิจัยและเทคโนโลยีอีก 23 แห่ง
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ GC ในปีนี้ ยังมั่นใจว่า ปริมาณการขายจะเติบโตตามเป้าหมายราว 8-10% ตามการทยอยเปิดเดินเครื่องการผลิตเชิงพาณิชย์ 3 โครงการใหม่ ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP) 2.โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide : PO) และ 3.โครงการโพลีออลส์ (Polyols) เพื่อผลิตโพรพิลีนออกไซด์ (PO)
ส่วนทิศทางตลาดในครึ่งปีหลัง อาจอ่อนตัวลงจากครึ่งปีแรก เช่น ผลิตภัณฑ์ด้านการกลั่นอ่อนตัวลง รวมถึงผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์