“ยังไม่ได้ข้อสรุป” ขึ้นบัญชีควบคุม ชุดตรวจโควิด

พาณิชย์ย้ำพร้อมดึงชุดตรวจโควิดเป็นสินค้าควบคุมราคา หากได้ข้อมูลที่ชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้รู้ต้นทุนที่แท้จริง ระบุชุดตรวจเป็นกลุ่มเวชภัณฑ์มีกฎหมายเฉพาะดูแลและเป็นสินค้านำเข้า ชี้หากสาธารณสุขต้องการให้เป็นสินค้าควบคุมกระทรวงพาณิชย์พร้อมทำตามได้ เตรียมทำหนังสือถึงสาธารณสุขขอความชัดเจน

วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมหารือทางออนไลน์ร่วมกับทางหน่วยงาน กระทรวงสาธารณสุขสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา( อย.) องค์การเภสัช กรมสนับสนุนสุขภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกฤษฎีกา กรมศุลกากร กรมวิทยาศาสตร์ แพทย์แผนไทย เพื่อร่วมหารือถึงความเหมาะสมหากจะดึงชุดตรวจแอนติเจน เทสคิด ที่จะใช้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นสินค้าควบคุมราคาดีหรือไม่ ว่า  โดยในส่วนของชุดตรวจดังกล่าวถือว่าเป็นเวชภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ โดยจะมีกฎหมายควบคุมการใช้จากกระทรวงสาธารณสุขเป็นการเฉพาะอยู่แล้ว 

ดังนั้น หากจะประกาศให้เป็นสินค้าควบคุมในด้านราคาโดยใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ ทางกระทรวงพาณิชย์จะต้องมีรายละเอียดต่างๆของชุดตรวจดังกล่าว เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าทั้งหมดที่จะต้องทราบข้อมูลแต่ละชนิดมีต้นทุนที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไรเพื่อจะได้นำมาพิจารณาหากจะดึงให้เป็นสินค้าควบคุมราคาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลการประชุมทางออนไลน์ในวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะดึงชุดตรวจแอนติเจน เทสคิดให้เป็นสินค้าควบคุมแต่อย่างใด โดยกระทรวงพาณิชย์จะทำหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุขเพื่อสอบถามอย่างเป็นทางการว่าจะให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาให้ดึงสินค้าชุดตรวจแอนติเจน เทสคิดเป็นสินค้าควบคุมราคาหรือไม่ หากจะดึงเป็นสินค้าควบคุมทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าชุดตรวจว่ามีจำนวนผู้นำเข้าที่ได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องมากน้อยแค่ไหนและมีชนิดชุดตรวจกี่ประเภทกี่ชนิด และมีต้นทุนชุดตรวจแยกแต่ละชิ้นว่ามีต้นมากน้อยแค่ไหนเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาต้นทุนที่แท้จริงทั้งหมด หากจะดึงเข้าเป็นสินค้าควบคุมราคาได้อย่างเหมาะสม 

แม้ว่าเป็นสินค้าที่คุมราคาแล้วหากกำหนดราคาควบคุมที่ต่ำเกินไปอาจไม่จูงใจสินค้าที่จะคุมต่อการนำเข้ามาได้ แต่หากสูงเกินไปก็จะกระทบต่อประชาชนที่จะต้องซื้อชุดตรวจที่แพงเกินไป จึงต้องพิจารณาให้เกิดความรอบคอบให้มากยิ่งขึ้น โดยในหลักการกระทรวงพาณิชย์ไม่ขัดคล้องที่จะดึงชุดชุดตรวจแอนติเจน เทสคิดเป็นสินค้าควบคุมราคา แต่สินค้าดังกล่าวเป็นกลุ่มสินค้าเวชภัณฑ์เฉพาะทางที่ไม่ใช่สินค้าทั่วไป ทำให้การจะกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมจะต้องผ่านกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้นำเสนอและกำหนดรายละเอียดมาให้กระทรวงพาณิชย์นำไปประกอบการพิจารณา ซึ่งถือว่าแตกต่างจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่กำหนดเป็นสินค้าควบคุมได้ เพราะส่วนใหญ่ผู้ผลิตสินค้าหน้ากากอนามัยจะผลิตในประเทศไทยใช้กฎหมายและขอความร่วมมือได้ แต่ชุดตรวจแอนติเจน เทสคิดเป็นการผลิตในต่างประเทศเป็นส่วนมาก ดังนั้น การกำหนดเป็นสินค้าควบคุมจึงมีรายละเอียดมากกว่าการผลิตในประเทศ ซึ่งคงต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งหนึ่ง 

นอกจากนี้ จากกระแสข่าวว่าขณะนี้มีการประกาศขายชุดตรวจแอนติเจน เทสคิดทางออนไลน์แล้วนั้น โดยมีราคาค่อนข้างสูงและเริ่มมีการสั่งซื้อกันมากขึ้นแล้วนั้น โดยเท่าที่กระทรวงพาณิชย์ติดตามการซื้อขายชุดตรวจแอนติเจน เทสคิดทางออนไลน์หรือร้านสะดวกซื้อถือว่าผิดกฎหมายของทางกระทรวงสาธารณสุขที่กระทรวงเตรียมดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง เพราะตามระเบียนจะอนุญาตให้ร้านขายยาจำหน่ายได้เท่านั้น โดยผู้ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตหรือขึ้นทะเบียนจากกระทรวงสาธารณสุขก่อนจะไม่สามารถนำมาจำหน่ายขายผ่านทางออนไลน์ได้ โดยยอมรับว่าทั้งวัคซีนและชุดตรวจแอนติเจน เทสคิดถือว่าเป็นเรื่องใหม่กระทรวงพาณิชย์ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าราคาต้นทุนที่แท้จริงเป็นอย่างไร ดังนั้น การกำหนดราคากลางเพื่อใช้อ้างอิงก็เป็นเรื่องลำบากมาก แต่หากจะให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดราคากลางให้เหมือนสินค้าทั่วไปทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องส่งรายละเอียดเกี่ยวกับราคาของสินค้าชนิดนี้มาให้กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาในรายละเอียดกันต่อไป