บอร์ด สมอ.ไฟเขียวมาตรฐานตู้เก็บวัคซีน

บอร์ด สมอ. ไฟเขียวมาตรฐานตู้เก็บวัคซีน เร่งเดินหน้าประกาศใช้ภายในเดือนสิงหาคม 2564 เพื่อให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมนำไปใช้อ้างอิงในการจัดหา หนุนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผลักดันให้ผู้ประกอบการกลุ่มเครื่องมือแพทย์ทำตามมาตรฐาน เพื่อคงคุณภาพวัคซีนก่อนนำไปฉีดให้ประชาชน

วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (บอร์ด สมอ.) เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมาว่า บอร์ด สมอ.ได้มีมติเห็นชอบมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 48 มาตรฐาน ซึ่งมีมาตรฐานสำคัญ ๆ อาทิ มาตรฐานตู้เก็บวัคซีน เครื่องจักรกลการเกษตร สุราแช่ สุรากลั่น ทีวีสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ สุขภัณฑ์เซรามิก คอนกรีตบล็อก กล้องติดรถยนต์ และเครื่องยนต์ก๊าซโซลีนขนาดเล็ก เป็นต้น

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

โดยเฉพาะมาตรฐานตู้เก็บวัคซีน ตนได้เร่งให้ สมอ.ดำเนินการประกาศใช้มาตรฐานโดยเร็วที่สุด เพื่อรองรับปริมาณความต้องการของโรงพยาบาล และหน่วยงานทางการแพทย์ในการเก็บรักษาวัคซีน เพื่อคงคุณภาพของวัคซีนก่อนที่จะนำไปฉีดให้กับประชาชน

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบมาตรฐานสุรากลั่นและสุราแช่ โดยยืนยันหลักการเดิม ความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อน สารไม่พึงประสงค์ห้ามมากกว่าเดิม พร้อมทั้งให้ สมอ.ควบคุมสินค้าอีก 5 รายการ ได้แก่ รถยนต์ขนาดเล็กที่ติดตั้งระบบก๊าซเพิ่มเติม ดวงโคมไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า กาต้มน้ำไฟฟ้า และชิ้นส่วนท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) กล่าวว่า สำหรับมาตรฐานตู้เก็บวัคซีน เฉพาะด้านสมรรถนะ เล่ม 1 ช่วงอุณหภูมิ ที่ยอมรับ 2 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียส มอก. 3245 เล่ม 1-2564 นี้ สมอ.ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งเป็นองค์กรกำหนดมาตรฐานขั้นสูงของ สมอ. หรือ SDOs จัดทำมาตรฐานดังกล่าวขึ้น

โดยคณะกรรมการวิชาการ (กว.) รายสาขา เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือแพทย์ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานร่วมกันพิจารณากลั่นกรองมาตรฐานดังกล่าว อาทิ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

โดยมาตรฐานครอบคลุมตู้เก็บวัคซีนแบบ 2 ประตู กระจกสองชั้น ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 250 โวลต์ สำหรับเก็บรักษาวัคซีนในช่วงอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียส รวมไปถึงยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ชนิดที่มีการใช้ครั้งเดียว (disposable use) และปิดสนิท (sealed package) ซึ่งมีข้อกำหนดที่สำคัญ คือ ข้อกำหนดทั่วไปของตู้เก็บความเย็น อุณหภูมิช่องเก็บ อุณหภูมิหลังเปิดประตู อุณหภูมิภายในตู้เมื่อไฟฟ้าดับ สัญญาณเตือนเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่าหรือสูงกว่าช่วงอุณหภูมิที่ยอมรับได้ อุปกรณ์เตือน และการแสดงผลกับผู้ใช้ ทั้งนี้ สมอ.คาดว่ามาตรฐานพร้อมประกาศใช้ภายในเดือนสิงหาคม 2564 นี้

และจะร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผลักดันให้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น นำมาตรฐานดังกล่าวไปใช้ เพื่อให้สามารถผลิตตู้เก็บวัคซีนที่มีคุณภาพตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลกรองรับความต้องการของโรงพยาบาลและหน่วยงานทางการแพทย์ในการเก็บรักษาวัคซีนที่จะมีการนำเข้ามาฉีดให้กับประชาชนจำนวนมากในอนาคตอันใกล้นี้

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมบอร์ด สมอ.ในครั้งนี้ นอกจากจะเห็นชอบมาตรฐานตู้เก็บวัคซีนแล้ว ยังได้เห็นชอบมาตรฐานสุรากลั่นและสุราแช่ ที่ได้ให้คณะกรรมการวิชาการรายสาขา (กว.) เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นผู้จัดทำมาตรฐานดังกล่าว กลับไปทบทวนเกณฑ์ด้านความปลอดภัยที่กำหนดในมาตรฐานฉบับแก้ไขใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่ามาตรฐานเดิม

โดยบอร์ดได้เห็นชอบให้คงค่าเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรฐานเดิมคือ สุรากลั่นให้คงเกณฑ์ในรายการเมทิลแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 420 มิลลิกรัมต่อลิตร และแอลดีไฮด์ ไม่เกิน 160 มิลลิกรัมต่อลิตร สำหรับสุราแช่กำหนดปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อลิตร เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค