บี้เอกชนอุ้มเกษตรกร 2 เดือน หั่นราคาปุ๋ย ตันละ 400 บาท

ปุ๋ย+เกษตรกร

อลหม่านปุ๋ยแพง ทะลุตันละ 15,000 บาท “พาณิชย์-เกษตรฯ” ไล่บี้เอกชนกลืนเลือด ลดราคาตันละ 400 บาท 2 แสนตัน ต่ำกว่าตลาด อุ้มเกษตรกร 2 เดือน

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ขอความร่วมมือสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ซึ่งมีผู้ผลิตและนำเข้าแม่ปุ๋ยและปุ๋ยเคมี 19 รายให้ลดราคาจำหน่ายปุ๋ย 84 สูตร ในราคาถูกกว่าท้องตลาดกระสอบละ 20 บาท เป้าหมาย 208,411 ตัน ผ่านกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2564

“จากสถานการณ์ราคาปุ๋ยในตลาดมีการปรับราคาสูงขึ้นจากวัตถุดิบแม่ปุ๋ยยูเรีย แม่ปุ๋ยฟอสเฟต และแม่ปุ๋ยโพแทสเซียม รวมถึงปุ๋ยเคมีสำเร็จรูปที่ส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มีการปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีในต่างประเทศเพิ่มขึ้น”

พร้อมทั้งกำหนดมาตรการให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย ตั้งแต่ 100 ตันขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณผลิต นำเข้า จำหน่าย คงเหลือ สถานที่เก็บ เป็นประจำทุกเดือนภายในวันที่ 10 ของเดือน และผู้นำเข้าต้องแจ้งการนำเข้า (ปริมาณ ราคา ยี่ห้อ สูตร) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นำเข้าหากพบว่ามีการกักตุนหรือจำหน่ายราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมกันนี้ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เชิญเอกชนผู้ค้าปุ๋ยยูเรียรายใหญ่ 7 ราย เข้าหารือถึงสถานการณ์ปัญหาราคาปุ๋ยที่ปรับสูงขึ้น ซึ่ง “เอกชนยืนยันลดราคาปุ๋ยไม่ได้” เพราะต้องซื้อตามกลไกตลาด จึงมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร ไปตรวจสอบปุ๋ยในสต๊อกต้นปี คาดว่าจะสรุปภายในสัปดาห์นี้ว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป

ล่าสุด นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยจะประสานไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ว่าจะมีแนวทางอย่างไร

ด้านนายกองเอก เปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และที่ปรึกษาอาวุโส บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี เปิดเผยว่า ทางสมาชิกสมาคมพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการจำหน่ายปุ๋ยต่ำกว่าตลาดตันละ 400 บาทให้กับสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรตามการขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ จนถึงเดือนสิงหาคม 2564 นี้

โดยปุ๋ยที่นำออกมาจำหน่ายนั้นก็เป็นปุ๋ยในกลุ่มพืชสำคัญ เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์ม ข้าวโพด และผลไม้ เป็นต้น

“การเพาะปลูกดีขึ้นจากดินฟ้าอากาศที่ดี ส่งผลต่อความต้องการปุ๋ยเพิ่มขึ้น ทั้งปุ๋ยยูเรียและอื่น ๆ เชื่อว่าเกษตรกรที่ปลูกพืชก็สามารถใช้ช่องทางนี้ไปซื้อปุ๋ยได้จะช่วยลดต้นทุนได้”

รายงานข่าวระบุว่า ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 มีการนำเข้า 1.23 ล้านตัน เพิ่ม 15.90% จากปี’63 ที่นำเข้า 1.06 ล้านตัน ราคา ณ หน้าโรงงานขายเฉลี่ยต่อตัน 11,354 บาท เอกชนชี้แจงว่า บวกกำไร 18-21% แต่ราคาที่ขายท้องตลาดสูงถึงตันละ 15,000 บาทต่อตัน เมื่อเทียบปี’63 ที่ราคาหน้าโรงงานเพียง 8,138 บาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 39.51%

สำหรับเอกชนมี 7 บริษัท ได้แก่

1.บริษัท เจี๋ยไต๋ จำกัด

2.บริษัท พี ซี เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด

3.บริษัท ปุ๋ยไวกิ้ง จำกัด

4.บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด

5.บริษัท เทอราโก เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด

6.บริษัท ไอ ซี พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

7.บริษัท ปุ๋ยมหาวงศ์ จำกัด