“บิ๊กตู่” เคาะ ชะลอระบายข้าว 1.5 ล้านตันยาว-ปีหน้า กำชับ ก.พาณิชย์-ก.เกษตรฯ ทำงานร่วมกัน

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 6/2560 ว่า สถานการณ์ผลผลิตข้าวโลกปี 2560 จาก 483.8 ล้านตัน ลดลง 3.3 ล้านตัน สถานการณ์การส่งออกข้าวโลก จาก 40 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 44 ล้านตัน

สำหรับการส่งออกของไทยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคมส่งออกไปแล้ว 9.22 ล้านตัน นับเป็นการปริมาณการส่งออกที่ดีที่สุดในโลก โดยมีอินเดียเป็นอันดับ 2 คาดว่า Quarter ที่ 4 ปริมาณและราคาการส่งออกจะไปได้ดีต่อเนื่อง ซึ่งแนวโน้มการส่งออกในตลาดโลกปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วทุกรายการ ยกเว้นข้าวเหนียว โดยข้าวหอมมะลิไทยจากราคาเฉลี่ยต่อปี 715 เหรียญต่อตันเพิ่มขึ้นเป็น 953 เหรียญต่อตัน สาเหตุเพราะความต้องการสูงและได้ตลาดกลับมาเพิ่มขึ้น ขณะที่ข้าวหอมมะลิเวียดนามราคาเพียง 950 เหรียญต่อตัน

สำหรับสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับประเทศจีน (ข้าวขาว 100%) ประมาณ 1 แสนตัน และบังคลาเทศ (ข้าวนึ่ง 5%) ประมาณ 1.5 แสนตัน ญี่ปุ่น (ข้าวสู่อุตสาหกรรม) 2.5 หมื่นตัน นอกจากนี้ยังมี MOU ของเอกชนไทยกับฟิลิปปินส์และฮ่องกง (ข้าวหอมมะลิ) ประมาณ 8 หมื่นตัน
แนวโน้มการส่งออกของภาคเอกชนดีขึ้น

ปัจจุบันมีการขออนุญาตเพื่อส่งออกไปแล้ว 11 ล้านตัน ซึ่งสมาคมส่งออกข้าวไทยแจ้งว่าเป้าส่งออกปี 60 ทั้งปี 10 ล้านตัน จะสามารถส่งออกได้เกินเป้าหมาย 10.8 ล้านตัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้แนวโน้มข้าวไทยส่งออกดีขึ้นเนื่องจากได้ส่วนแบ่งตลาดข้าวกลับคืนมามาก โดยเฉพาะฮ่องกงเพิ่มขึ้นเป็น 70-80 % จากเดิม 40 %
นอกจากนี้โครงการใหม่อยู่ระหว่างเริ่มต้นดำเนินการ คือ การเชื่อมโยงข้าวสี ซึ่งเริ่มทำในเดือนพฤศจิกายน โดยประสานกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยนำข้าวสีที่มีมูลค่าสูงและมีศักยภาพในการส่งออกทั้งหมด 3 พันธุ์ ได้แก่ หอมมะลิแดง หอมนิลและไรซ์เบอรี่ ซึ่งได้ทำการเชื่อมโยงใน 4 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี โดยลองดำเนินการไปแล้ว 1,371 ตัน ตามนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนพันธุ์ข้าวที่มีราคาสูง

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์จากข้าวมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจาก Order จำนวนมาก อาทิ อาหารเสริมจากน้ำมันรำข้าว ขนมปังจากข้าวไรซ์เบอรี วัสดุปิดแผล สบู่ล้างหน้า แชมพูข้าวหอมนิล คาดว่าในอีก 1 ปีข้าวหน้ายอดขายจะสูงถึง 100 ล้านบาท

ขณะที่ข้าวในสต็อกรัฐบาลประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ข้าวดี (รับประทานได้) ระบายออกหมดแล้ว กลุ่มที่ 2 ข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม คงเหลือ 1 ล้านตัน ทั้งนี้ เป็นข้าวที่ประมูลไปแล้วแต่มีการฟ้องร้องและตรวจสอบทำให้คู้ค้าบางรายยกเลิกสัญญาซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 13 รายที่ยังต้องการทำสัญญาต่อไป และกลุ่มที่ 3 ข้าวไม่ใช่สำหรับคนและสัตว์รับประทาน คงเหลือ 5 แสนตัน ทั้งนี้ ทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านตัน ได้ขอมติในที่ประชุมนบข.ให้ชะลอการระบายออกไปไปจนถึงปีหน้า

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานในที่ประชุมได้ให้ความสำคัญในเรื่องการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ก็ต้องลงไปด้วยกัน ทั้งภาคการผลิตและภาคการตลาด จะได้บอกกับเกษตรกรได้ว่า พื้นที่ไหนอยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นตอนใด พื้นที่ใดเหมาะหรือไม่เหมาะในการปลูกข้าวและจะเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดใด ปลูกแล้วจะขายให้ใคร การจัดหาตลาด ทำงานอย่างบูรณาการเชื่อมโยงกัน ระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงสินค้าเกษตรโดยภาพรวม เช่น ปาล์ม ยางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง”