พาณิชย์ขู่ค้ากำไรเกินควรชุดตรวจโควิด-19 ดำเนินคดีทันที

ชุดตรวจโควิด

พาณิชย์กำชับทุกหน่วยงานติดตามดูแลปริมาณและราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ยันยังมีปริมาณเพียงพอพร้อมประสานผู้ผลิต ผู้ประกอบเร่งเติมสินค้า ขณะที่ชุดตรวจโควิด-19 พบค้ากำไรเกินควรดำเนินดีทันที

วันที่ 6 สิงหาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับการติดตามดูแลราคาสินค้าในช่วงสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการออกมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้น ตนได้มอบหมายให้ปลัดพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งปริมาณสินค้าให้มีเพียงพอกับผู้บริโภค รวมไปถึงการตรวจสอบปริมาณสินค้าและราคาสินค้าเพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบประชาชนในช่วงนี้ด้วย

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในก็ได้ประสานไปยังผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ เพิ่มกำลังการผลิตและปริมาณสินค้าให้เพียงพอ แม้ปัจจุบันผู้ผลิตจะได้รับผลกระทบเรื่องปัญหาแรงงานไม่เพียงพอแต่ก็พร้อมที่จะเพิ่มปริมาณสินค้าให้มากขึ้น และเร่งแก้ไขเพื่อของระบบขนส่ง และจัดสินค้าขึ้นชั้นวางสินค้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือทุกภาคส่วนรัฐ เอกชน ในการขอความร่วมมือและแก้ไขในการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามจังหวัดด้วยเพื่อให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

ส่วนกรณีการติดตามดูแลชุดตรวจโควิด-19 แบบ Antigen Test Kits นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายในได้หารือกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องมาโดยตลอด ล่าสุดจากรายงานพบว่ามีบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ประมาณ 25 บริษัท กับ 26 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้ามาแล้วอยู่ประมาณ 5-6 ผลิตภัณฑ์ และจากการติดตามก็จะเร่งทยอยนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการติดตามคาดว่าจะเร่งนำเข้ามาประมาณ 8.5 ล้านชิ้น เพื่อให้เข้าถึงประชาชนที่ต้องการให้มากที่สุด แต่ภายในสัปดาห์นี้จากรายงานพบว่าจะเร่งนำเข้ามาประมาณ 1 ล้านชิ้น


นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้ชี้แจงไปยังบริษัทผู้นำเข้าชุดตรวจโควิด-19 ให้มีการรายงานต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ เพื่อที่จะสามารถพิจารณาราคาขายที่เหมาะสมได้ ซึ่งหากพบว่ามีการจำหน่ายหรือค้ากำไรเกินควร และมีประชาชนร้องเรียน ไม่ได้รับความเป็นธรรมเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นความจริง ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ในมาตรา 29 ค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ