กรมพัฒน์ฯ นำกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ช่วยระงับข้อพิพาทธุรกิจ 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผนึกสถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center : THAC)  ลงนาม MOU นำกระบวนการอนุญาโตตุลาการและการประนอมข้อพิพาทมาเป็นทางเลือกในการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจของประชาชน ลดการจบปัญหาที่ศาล ซึ่งยืดเยื้อ เสียเวลาทำมาหากิน สามารถเริ่มธุรกิจใหม่ได้ไวขึ้น

วันที่ 10 สิงหาคม 2564 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงนาม MOU กับสถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center : THAC) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อนำกระบวนการอนุญาโตตุลาการและการประนอมข้อพิพาท มาเป็นทางเลือกในการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจของประชาชน

“การประกอบธุรกิจย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอปัญหาข้อพิพาทระหว่างผู้ที่มีส่วนได้เสียในการดำเนินธุรกิจ เช่น กรรมการ ผู้ถือหุ้น ลูกหนี้ เจ้าหนี้ รวมถึงผู้ให้หลักประกัน เมื่อคุยกันไม่ลงตัว เกิดการฟ้องร้องกันอยู่เป็นประจำ สุดท้ายต้องไปพึ่งศาลให้เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งกว่าจะถึงบทสรุปได้ต้องใช้เวลายาวนาน และส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัทคู่กรณี ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือและเป็นการทำลายสัมพันธภาพระหว่างหุ้นส่วน ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงักดำเนินการต่อไม่ได้”

ทั้งนี้การใช้ระบบอนุญาโตตุลาการ จะช่วยลดปัญหาความยืดเยื้อในการระงับข้อพิพาทโดยไม่ต้องถึงศาล กระบวนการอนุญาโตตุลาการ (Arbitration) คือ การระงับข้อพิพาททางเลือกนอกศาล หรือ การระงับข้อพิพาทโดยไม่ได้ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน แต่ให้บุคคลที่สามที่มีความเป็นกลางและเป็นอิสระเรียกว่า “อนุญาโตตุลาการ” ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องที่พิพาทเข้ามาเป็นผู้ทำการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทดังกล่าวและกำหนดให้คู่กรณีต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาด คล้ายกับการระงับ ข้อพิพาทโดยศาล เพียงแต่ไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดโดยศาล ซึ่ง “อนุญาโตตุลาการ” หรือ บุคคลที่สาม อาจเป็นบุคคลเดียวหรือ หลายบุคคลก็ได้

นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ กล่าวเสริมว่า การประนอมข้อพิพาท (Mediation) คือ กระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยความตกลงยินยอมของคู่พิพาทก่อนเริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการ โดยจะมีบุคคลที่สามมาเป็นคนกลางเรียกว่า “ผู้ประนอมข้อพิพาท” ทำหน้าที่ช่วยเหลือหาทางออกร่วมกันของผู้พิพาททั้งสองฝ่าย เพื่อนำมาสู่ข้อตกลงในการระงับข้อพิพาทร่วมกันอย่างเป็นมิตร (win-win solution) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการ ของการระงับข้อพิพาททางเลือก เพียงแต่การประนอมนั้นจะไม่มีการตัดสินออกมาเป็นคำชี้ขาด และไม่ได้กำหนดแน่ชัดว่าใครเป็นคนถูก คนผิดที่ชัดเจนเหมือนกับกระบวนการอนุญาโตตุลาการ

ข้อดีของการประนอมข้อพิพาทด้วยกระบวนการอนุญาโตตุลาการ คือ 1) สะดวก ขั้นตอนไม่ยุ่งยากและช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคู่พิพาท 2) รวดเร็ว มีประสิทธิผล ใช้เวลาไม่นาน เพราะคู่พิพาทสามารถเลือกบุคคลที่จะทำหน้าที่อนุญาโตตุลาการ หรือผู้ประนีประนอมข้อพิพาท จากผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่อง ที่ตนพิพาทได้ ทำให้การรับฟังพยานหลักฐานและตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทสามารถทำได้รวดเร็ว 3) ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่ากระบวนการทางยุติธรรม 4) รักษาความสัมพันธ์ของคู่กรณี หากคู่พิพาทสามารถตกลงระงับข้อพิพาทกันได้จะทำให้ลดข้อขัดแย้ง ข้อโต้เถียงระหว่างกัน 

5) รักษาชื่อเสียงและความลับทางธุรกิจของคู่พิพาท เนื่องจากพยานหลักฐานและข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานอ้างอิงในชั้นศาลได้ เว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งจะยินยอม 6) ลดปริมาณข้อร้องเรียน และข้อพิพาทด้านการจดทะเบียน ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมทั้งคดีที่จะขอให้ นายทะเบียนเป็นพยานเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของศาล

“จากนี้ไป ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุนให้มีการฝึกอบรม สัมมนาเพื่อพัฒนาบุคคลากรของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยกระบวนการอนุญาโตตุลาการ แลtการประนอมข้อพิพาท นอกจากนี้ยังจะช่วยกันส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หรือองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการระงับข้อพิพาททางเลือก”