ก่อนหน้านี้เจ้าตลาดในธุรกิจพลังงาน “ปตท.” ได้รุกสู่ธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง หลายคนคงเคยทราบว่าได้มีการจัดตั้งทีมงาน “ExpresSo” ซึ่งมาจาก Express Solution หรือการพัฒนานวัตกรรมใหม่อย่างรวดเร็ว ไปเฟ้นหาธุรกิจสตาร์ตอัพเพื่อส่งต่อสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่มาจนถึงวันนี้
นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนการพัฒนานวัตกรรมของ ปตท.ว่า จากนโยบายการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ ปตท. บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ หลายส่วน เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะเห็นว่าเป็นนโยบายที่ ปตท.ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“ทีมงาน ExpresSo ผ่านมาถึงปัจจุบันก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง ส่วนที่สอง ปตท.มี ‘สถาบันนวัตกรรม ปตท.’ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้มีการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ออกมาเสมอ เช่น ล่าสุดได้พัฒนาอุปกรณ์ชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบ A/C ขึ้นมาหลายขนาด โดยขนาดใหญ่สุดที่พัฒนาได้เป็นขนาด 22 กิโลวัตต์อาวร์ (kW-hr)”
ผลิตภัณฑ์ตัวชาร์จนี้ก็อยู่ในรายชื่อของบัญชีนวัตกรรม ซึ่งหน่วยงานราชการสามารถนำไปใช้ได้ในการติดตั้งให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการอีวีมี พลัส เราก็วางตอบสนองความต้องการใช้ที่จะมีภาพขึ้นด้วย ซึ่งในอนาคตตรงนี้ก็จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้ ecosystem มีการพัฒนาไปพร้อม ๆ การส่งเสริมการผลิตแพลตฟอร์มควบคู่ไปกับบริการหลังการขายด้วย
Swap and go
นายนพดลกล่าวว่า การพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องพัฒนา ecosystem ของระบบสาธารณูปโภค (infrastructure) ควบคู่ไปด้วย ซึ่งล่าสุด ปตท.ได้นำร่องโครงการ swap battery ก็สำคัญอีกตัวหนึ่ง เพราะว่าเรื่องของการชาร์จบางพื้นที่อาจจะมีข้อจำกัด และระยะเวลาการชาร์จก็ยังเป็นเรื่องที่ผู้ใช้คำนึงถึงอยู่ เพราะฉะนั้น แนวทางในการใช้สวอปก็เป็นแนวทางหนึ่งที่น่าจะไปช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้โดยเฉพาะรถสองล้อ
“เราอยู่ระหว่างการทำ prototype ที่เรียกว่า swap and go ซึ่งจะเป็นแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ เรามีสถานีสำหรับสวอป 22 สถานี ตามสถานีบริการน้ำมันและจุดต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ โดยจะมีมอเตอร์ไซค์ที่เรานำเข้ามาร่วมในโครงการประมาณ 40 คัน ทำหน้าที่ทดสอบ”
“ตอนนี้มีหลายบริษัทที่ให้ความสนใจดูแล้วก็มีความคล่องตัว สำหรับท่านที่ใช้ในเมืองซึ่งจะมีการ subscribe และเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้โดยที่คำนวณต้นทุนแล้วสามารถแข่งขันได้กับมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ตอนนี้เราก็อยู่ในช่วงที่ทดสอบอันนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราคิดว่าถ้าเราสามารถสเกลอัพ หากสำเร็จจะสร้าง ecosystem ให้แข็งแรงขึ้นสำหรับ EV value chain คือมีทั้งที่ชาร์จส่วนที่ไม่สะดวก ที่ชาร์จก็สามารถใช้แบตเตอรี่สวอปได้ ค่าบริการก็ใช้วิธีเหมาต่อเดือนมันเป็นบุฟเฟต์ว่าจะไปเปลี่ยนได้กี่ครั้ง แนวโน้มตลาดน่าจะไปได้ดีเพราะจากความต้องการใช้มอเตอร์ไซค์ในการขนส่งสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้น”
ต้นแบบสู่นวัตกรรมเชิงพาณิชย์
ตอนนี้ ปตท.จะมีโมเดลที่เรียกว่า บริษัท อัลฟ่า คอม ซึ่งคอยทำหน้าที่เหมือนกับเป็น incubator เพื่อพัฒนาให้แนวคิด (concept) ในเรื่องต่าง ๆ มาแปลงทำเป็นธุรกิจภายใต้บริษัท เพื่อให้ทำ prototype บิสซิเนสเคสพวกนี้สามารถที่จะผ่านพรูฟและสเกลอัพได้หรือไม่ออกไปเติบโตเหมือนเป็นสตาร์ตอัพ
ซึ่งโดยทั่วไปเท่าที่ดูสตาร์ตอัพเหล่านี้จะใช้เวลาเร็วที่สุดไม่เกิน 1 ปีนับจากการนำเสนอแนวคิด (ไอเดียเจเนอเรชั่น) มาทำ Prototype แล้วก็มาทดสอบ (เทสต์) ก่อนที่จะสเกลอัพเพื่อจะทราบว่าสินค้านั้นสามารถพัฒนาทางธุรกิจต่อไปได้หรือไม่ ยกเว้นบางสินค้าที่อาจจะมีความซับซ้อนต้องใช้เวลามากกว่านั้น
ทั้งนี้ หลักการวัดว่าธุรกิจสตาร์ตอัพใดที่ควรจะนำมาต่อยอดสตาร์ตอัพนี้ในเชิงพาณิชย์ เราจะต้องมองหลาย ๆ มุม ทั้งตัวลูกค้า การเงิน เช่นว่าสินค้าหรือบริการนั้นสามารถสร้างรายได้ไปด้วยตัวเองได้หรือไม่ เพราะบางครั้ง product ที่ดีถ้าขายไม่ได้ ดีเกินไปทำตลาดไม่ได้ เกินความต้องการก็อาจจะไปไม่ได้
ซึ่งมันก็จะสะท้อนกลับมาจากการตอบรับของลูกค้าในวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น หรือไฟแนนเชียลรีซอร์ซมันสะท้อนความจริงได้แค่ไหน ถ้าขายได้ปริมาณยิ่งมาก แต่ยิ่งขายยิ่งขาดทุนก็ไม่ใช่อีก ทั้งปริมาณทั้งมาร์จิ้นที่สมเหตุสมผล และแนวโน้มการเติบโตที่ได้รับการยอมรับก็เป็นอินดิเคเตอร์ที่สำคัญ ตลาดเป็นตัวตอบโจทย์เรื่องนี้
“วันนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ปตท.มีเวทีให้ incubator ภาพทั้งหลายโปรเจ็กต์ที่ดูดีทั้งหลาย ให้เขาสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขามีอะไรโปรเจ็กต์ที่ไปได้ไหม ส่วน EspresSo ก็ยังแอ็กทีฟอยู่มาก ๆ หน้าที่ก็คือว่าไปลงทุนผ่านทางกองทุนแล้วก็ลงทุนโดยตรงกับสตาร์ตอัพด้วยการลงทุนเอง นอกจากได้ผลตอบแทนในการลงทุนแล้วเรายังสามารถที่จะ bring in technology ต่าง ๆ เข้ามาทำธุรกิจหรือเข้ามาเติมธุรกิจเดิม swap and go เป็นตัวอย่างหนึ่งที่มาจากเอสเพรสโซ่”
พาเหรดออกผลงาน
และล่าสุดเรามีบริษัทหนึ่งที่พัฒนา “public cloud service provider” ชื่อเมล์คลาวด์เทค เป็นสตาร์ตอัพเล็ก ๆ อันหนึ่งที่ทำหน้าที่ให้บริการกับลูกค้าภายในและภายนอกกลุ่ม มีเรื่องของการพยากรณ์การบำรุงรักษา (predictive maintenance in-house) ของ ปตท. เราก็เอามาพัฒนาอัลกอริทึมขึ้นมา กระทั่งสามารถประกวดได้รางวัลข้างใน
นอกจากนี้ มีอุปกรณ์กำจัดฝุ่นจิ๋วพีเอ็ม 2.5, นวัตกรรมผ้าปิดแผล ซึ่งได้ทำการตลาดเชิงพาณิชย์ไปแล้วตอบโจทย์เรื่องไลฟ์ไซเอนซ์ และการเอาวัสดุที่เหลือใช้จากเปลือกหรือเม็ดกาแฟที่คั่วแล้วมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาอินโนเวชั่นโซลาร์ฟาร์มที่หลากหลายเริ่มนำร่องในศูนย์นวัตกรรมที่วังน้อย
“เมื่อคิดว่าดีพอเอาไปเสนอให้กับลูกค้าว่าสิ่งที่ดีพอสำหรับเราดีพอสำหรับลูกค้าหรือไม่ ซึ่งวันนี้ก็มีการตอบรับค่อนข้างดี นั่นหมายความว่าสิ่งที่เราคิดก็ดีสำหรับคนภายนอกด้วยเหมือนกัน เรามีโปรเจ็กต์อย่างนี้ใน pipeline เยอะ ฉะนั้น เอ็กซ์เพรสโตเองก็ยังทำหน้าที่เป็นเรือลำเล็กที่ยังหาโอกาสในการลงทุนต่าง ๆ และดึงองค์ความรู้ต่าง ๆ กลับมาให้องค์กรนอกจากผลตอบแทนจากการลงทุน และนำไปสู่การพัฒนาสิทธิบัตรในทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมากในอนาคต”