ชาวนาโอดปุ๋ยราคาสูง พาณิชย์เร่งต่อโครงการ “ลดราคา” อีก 2 เดือน

พาณิชย์ต่อโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ปุ๋ยช่วยเกษตรกร” อีก 2 เดือน เพื่อช่วยชาวนาลดต้นทุน ขณะที่ ชาวนายังห่วงเรื่องน้ำแม้ฝนจะตกช่วงนี้และต้นทุนปุ๋ย

วันที่ 11 กันยายน 2564 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ล่าสุดกรมการค้าภายในขยายระยะเวลาโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ปุ๋ยช่วยเกษตรกร” ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา และจะขยายออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาปุ๋ยที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งกรมการค้าภายในจะเผยแพร่รายการและราคาปุ๋ยในโครงการ พร้อมทั้งอัตราค่าขนส่งทางเว็บไซต์กรมฯ (https://www.dit.go.th/) และสถาบันเกษตรกรสามารถสั่งซื้อปุ๋ยในโครงการผ่านสหกรณ์อำเภอ สหกรณ์จังหวัด เกษตรอำเภอ และเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ

จากก่อนหน้านี้ ราคาปุ๋ยเคมีปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบแม่ปุ๋ยนำเข้า (ยูเรีย ฟอสเฟต และโพแทสเซียม) ที่ปรับสูงขึ้นทั่วโลกนั้น มีสาเหตุสำคัญมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตแม่ปุ๋ยรายใหญ่ของโลกได้ชะลอการส่งออกเพื่อเก็บปุ๋ยไว้ใช้ในฤดูหว่านไถที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้

ประกอบกับประเทศอินเดียได้ประมูลซื้อปุ๋ยในปริมาณมากตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ทำให้ปริมาณปุ๋ยในตลาดโลกลดลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้นจากปีที่แล้ว ทำให้ค่าระวางเรือในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปรับสูงขึ้นจากเดิมถึง 2.5 เท่า ส่งผลให้ต้นทุนในเรื่องของการขนส่งสูงขึ้นด้วย

กรมการค้าภายใน ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและมีมาตรการช่วยเหลือตั้งแต่ปลายปี 2563 โดยเชิญประชุมผู้ผลิต/ผู้นำเข้าปุ๋ยเคมีรายใหญ่กว่า 10 ราย และขอความร่วมมือตรึงราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีออกไประยะหนึ่ง แต่ด้วยราคาวัตถุดิบและต้นทุนค่าขนส่งยังไม่มีทีท่าลดลง กรมการค้าภายในจึงได้ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ดำเนินโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ปุ๋ยช่วยเกษตรกร”

โดยจำหน่ายปุ๋ยเคมีราคาถูกให้เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร อาทิ สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร มีปุ๋ยเคมีที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 84 สูตร ปริมาณรวม 4.5 ล้านกระสอบ สามารถช่วยให้สถาบันเกษตรกรซื้อปุ๋ยเคมีได้ในราคาลดลงจากราคาตลาดและเท่ากับเป็นการตรึงราคาปุ๋ยให้แก่เกษตรกรอีกด้วย

เช่น ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ราคาหน้าโรงงานปกติ 825 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 775 บาท/กระสอบ สูตร 16-20-0 ราคาหน้าโรงงานปกติ 725 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 640 บาท/กระสอบ สูตร 15-15-15 ราคาหน้าโรงงานปกติ 825 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 730 บาท/กระสอบ สูตร 21-0-0 ราคาหน้าโรงงานปกติ 450 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 390 บาท/กระสอบ เป็นต้น

โดยสถาบันเกษตรกรสามารถเลือกได้ว่าจะรับมอบปุ๋ยที่หน้าโรงงานตามราคาโครงการหรือรับมอบจากตัวแทนในพื้นที่ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทยให้จัดทำอัตราค่าขนส่งปุ๋ยเคมีในอัตราพิเศษสำหรับโครงการนี้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกให้แก่สถาบันเกษตรกรอีกด้วยจากการดำเนินโครงการ ขณะนี้มีการสั่งซื้อปุ๋ยจากสถาบันเกษตรกรแล้ว 1.3 ล้านกระสอบ เหลืออีก 3.2 ล้านกระสอบ โดยที่เกษตรกรยังคงมีความต้องการในการใช้ปุ๋ยอย่างมาก

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาข้าวตอนนี้ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ covid 19 ทำให้การส่งออกชะลอตัว ประกอบกับกังวลว่าโรงสีจะขาดสภาพคล่องทำให้ไม่สามารถรับซื้อข้าวจากชาวนาได้อย่างเต็มที่

รวมไปถึงขณะนี้ฝนตกทำให้ข้าวมีความชื้น ดังนั้นจึงเป็นห่วง หาการส่งออกข้าวยังคงชะลอตัวอาจจะกดดันราคาเข้าภายในประเทศจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคเอกชนในการผลักดันการส่งออก รวมไปถึงตอนนี้ชาวนายังต้องแบกรับต้นทุน โดยเฉพาะค่าปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นและอนาคตยังกังวลเรื่องของน้ำแม้ฝนจะตก แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ตกเหนือเขื่อนทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนอาจะไม่เพียงพอทำการเกษตรได้ในอนาคต ซึ่งก็คาดหวังให้หน่วยงานเข้ามาดูแล