‘เหยื่อท่อก๊าซ ปตท. ระเบิด’ ร้อง สภาองค์กรของผู้บริโภค เรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมกว่า 30 ล้านบาท หลังผ่านมา 81 วันยังต้องรักษาต่อ ล่าสุดหารือบริษัทประกันภัยและตัวแทน ปตท. แล้วรับข้อเสนอแล้ว
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2554 จากเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 2 ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ตามมาเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 บริเวณตรงข้ามวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ถนนเทพราช – ลาดกระบัง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการนั้น
- เปิดคำทำนาย “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ปี 2567 ฝนตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า
- ไขปม Taobao Thailand เป็นใคร ทำอะไร
- สรุปวิธีใช้เงินดิจิทัล และเงินสด 10,000 บาท ใครขึ้นเงินสดได้บ้าง
รายงานข่าวจากศูนย์บริการผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ระบุว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณจักรเทพ เดชนคร ตัวแทนของผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือ คุณคฑาฤทธิ์ ภูเดชพันธุ์ อายุ 55 ปี และ คุณเขมฤทธิ์ เลิศวิโรจน์ถาวร อายุ 42 ปี ซึ่งประกอบกิจการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างถนนในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดเดชทศพักตร์มาร์เก็ตติ้ง การโยธา ที่มาตั้งที่พักคนงานใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียหายทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ตั้งแต่ 22 ตุลาคม 2563 ถึง 10 มกราคม 2564 รวมระยะเวลาถึง 81 วัน อีกทั้งยังต้องพบแพทย์เพื่อผ่าตัดและทำการรักษามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้บริษัทผู้รับเหมาของคุณคฑาฤทธิ์ยังได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ศูนย์บริการผู้บริโภคฯ สอบ. ได้รับทราบข้อมูลว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เสียหายทั้งสองคนได้พยายามติดตามและเรียกร้องให้บริษัท ปตท. ชดใช้ความเสียหาย ซึ่งบริษัทฯ ได้เยียวยาและชดใช้ความเสียหายไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ผู้เสียหายทั้งสองก็ยังต้องทนทุกข์จากบาดแผลไฟไหม้บนร่างกายและต้องรักษาตัวต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ที่พักคนงานที่ได้รับความเสียหายไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เนื่องจากทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ท่อก๊าซระเบิด จึงต้องการให้บริษัทฯ ชดเชยเยียวยาเพิ่มเติม
ซึ่งเมื่อประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งหมดแล้วนั้นจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากบริษัทฯ ให้ข้อมูลว่าไม่สามารถชดเชยค่าเสียหายเพิ่มเติมให้ได้ เนื่องจากต้องรอผลพิสูจน์ถึงสาเหตุของการรั่วและการระเบิดของท่อก๊าซจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจึงจะดำเนินการต่อไปได้ ตัวแทนผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนกับ สอบ. เพื่อช่วยเรียกร้องให้บริษัท ปตท. และบริษัทประกันภัย แสดงความรับผิดชอบ เพราะเหตุการณ์ได้ล่วงเลยมาเกือบครบหนึ่งปีแล้ว
ล่าสุดเมื่อ 15 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ศูนย์บริการผู้บริโภคฯ สอบ. ได้เชิญตัวแทนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมเพื่อพิจารณาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ได้แก่ ตัวแทนบริษัท ปตท. ในฐานะผู้ดำเนินการท่อส่งก๊าซธรรมชาติดังกล่าว ตัวแทนบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับประกันภัยต่อบุคคลภายนอกที่
โดย ปตท. ได้ทำสัญญาประกันภัยไว้ และ ตัวแทนบริษัท แม็คลาเรนส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ประเมินความเสียหายให้กับบริษัท ทิพยประกันภัยฯ รวมถึงผู้เสียหายที่มาร้องเรียนกับศูนย์บริการผู้บริโภคฯ สอบ.
จากผลการหารือสรุปได้ว่า ตัวแทนจากบริษัทประกันภัยและตัวแทนจากบริษัท ปตท. ได้รับข้อเสนอที่ผู้เสียหายเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนรวมกว่า 30 ล้านบาทไปพิจารณา และหลังจากนี้ศูนย์บริการผู้บริโภคฯ สอบ. จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการชดเชยความเสียหายโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเหลือเพียง 4 สัปดาห์ จะถึงวันครบกำหนด 1 ปีนับจากเกิดเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ ปตท. ได้จัดทำประกันภัยไว้กับบริษัท ทิพยประกันภัยฯ ดังนี้
1. กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย ตามกรมธรรม์เลขที่ 14019-111-200000604 กรมธรรม์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 40,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินประมาณ 1,200,000,000 บาท)
2. กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดบุคคลภายนอก ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย การบาดเจ็บ และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมาย กรมธรรม์เลขที่ 14013-111-200000312 กรมธรรม์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินประมาณ 1,500,000,000 บาท)
และ 3. กรมธรรม์ประกันภัยรับผิดตามกฎหมายอันเกิดจากการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการควบคุมก๊าซธรรมชาติ คุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 200,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริงไม่เกิน 200,000 บาทต่อคน ความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้ได้รับความเสียหายตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามประเภทกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดยคุ้มครองรวมกันสูงสุดไม่เกิน 450,000 บาทต่อครั้ง
