ส่องแผน WHA ฝ่าโควิดเวียดนามจ่อเทงบฯ 6 พันล้านขยายลงทุน 3 บิ๊กโปรเจ็กต์นับหมื่นไร่ ประเดิมไตรมาส 1/65 ขยายเฟส 2 นิคมเหงะอาน 2,100 ไร่ พร้อมปูพรมสาธารณูปโภค โลจิสติกส์กวาดนักลงทุนจีน-ญี่ปุ่น-ไทย ต่อด้วยเขตอุตสาหกรรม-สมาร์ทซิตี้ จ.ถั่งหัว อีก 7,500 ไร่ อานิสงส์ขายน้ำพุ่ง หนุนรายได้ WHA UP โต 25%
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยถึงการลงทุนในเวียดนาม ว่า ขณะนี้บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID เตรียมขยายการก่อสร้างเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียลฯโซน 1-เหงะอาน เฟส 2 ขนาด 2,100 ไร่ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
จากที่ก่อนหน้านี้ที่ก่อสร้างเฟส 1 เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว มีขนาดพื้นที่ 1,000 ไร่ และมีผู้เช่าแล้วมากถึง 54% ของพื้นที่ โดยผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากจีน ญี่ปุ่น และไทย มีหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งอิเล็กทรอนิกส์ การแปรรูปอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ และวัสดุก่อสร้าง
นอกจากนี้ WHAID ยังอยู่ระหว่างพัฒนาเขตอุตสาหกรรมอีก 2 แห่งในจังหวัดถั่งหัวคือ WHA Smart Technology Industrial Zone-Thanh Hoa พื้นที่ 3,750 ไร่ และโครงการ WHA Northern Industrial Zone-Thanh Hoa พื้นที่ 3,375 ไร่ รวม 2 โครงการครอบคลุมพื้นที่ 7,500 ไร่ โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และ 2567
“แผนการลงทุนทั้ง 3 พื้นที่เขตอุตสาหกรรมในเวียดนาม ธุรกิจสาธารณูปโภคทั้งพลังงานหมุนเวียนและผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม จะใช้เงินลงทุนในส่วนของปี 2564 ที่มีเหลืออยู่ 6,100 ล้านบาท เพราะจากโควิด-19 ที่ทำให้การลงทุนในเวียดนามติดปัญหาเล็กน้อย จากข้อจำนวนในการเดินทางจากล็อกดาวน์ประเทศที่ต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ ส่งผลให้บางโครงการต้องเลื่อนการลงทุนไปเป็นปี 2565”
นอกจากนี้ จะมุ่งขยายการลงทุนในส่วนของพอร์ตงานกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค โดยดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์พาวเวอร์ หรือ WHAUP ที่เวียดนาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 โครงการ ซึ่งเป็นการผลิตน้ำประปาและการบำบัดน้ำเสีย เช่น โรงบำบัดน้ำ Duong River Surface ที่ช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2564) พบว่ามีอัตราการใช้น้ำสูงขึ้นและมีปริมาณการขายน้ำเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน 26% โรงบำบัดน้ำ Cua Lo ที่ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเป็น 7.3 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี
ส่วนที่เหลือจะเน้นไปที่การลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ การก่อสร้างอาคารซื้อที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และขยายนิคมอุตสาหกรรมตามแผนอีก 3 แห่ง คือ 1.นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3)
2.นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอระยอง 36 (WHA RY36) ที่จะดำเนินการสร้างเสร็จปลายปี 2564 และ
3.นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียลเอสเตท ระยอง (WHA IER) จะเริ่มการก่อสร้างไตรมาส 4 ปี 2565
นอกจากนี้ ยังมีส่วนต่อขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 (WHA ESIE 4) จะเริ่มขึ้นในไตรมาส 4 ของปี 2564 ซึ่งจะเป็นผลให้ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของ WHA มีที่ดินอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กว่า 68,000 ไร่
“บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะขยายตัว 30% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่ากว่า 8,197 ล้านบาท โดยเรามองว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ยังไปได้ หลังเปิดประเทศจะเห็นการโตขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ consumer และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้ธุรกิจนิคมกลับมาเป็นพระเอกอีกครั้งปี 2565 และเราสามารถไปขยายการลงทุนที่ต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเราจะมุ่งขยายการลงทุนที่ประเทศมากขึ้น โดยมุ่งขยายที่เวียดนาม ไม่ใช่แค่ธุรกิจนิคม แต่จะขยายการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์และพลังงานด้วย”
ขณะที่ ดร.นิพนธ์ บุญเดชานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ WHAUP เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปี 2564 มองว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโต 25% เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่ม WHA สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประเทศเวียดนามที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ฮานอยมีการ lockdown อย่างเข้มข้น แต่ล่าสุดเริ่มให้ประชาชนที่อยู่ในโซนพื้นที่สีเขียวออกมาซื้ออาหารได้บ้าง จะเหลือที่โฮจิมินห์ซึ่งคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติในเร็ว ๆ นี้”
“ที่นิคม WHA ที่เหงะอานเลิกล็อกดาวน์ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแนวโน้มธุรกิจยังดีต่อเนื่อง บริษัทมีโครงการขยายท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการเติบโตของนิคม WHA Nghe An และมีลูกค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ก็ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานในนิคม คาดว่าจะเริ่ม COD เฟสแรกประมาณไตรมาส 2 ปี 2565 และจะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตและการใช้น้ำจนถึง 5,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ช่วงกลางปี 2566”
ทั้งนี้ ปริมาณการจำหน่ายน้ำในประเทศเวียดนามในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณ 10.5 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยบริษัท ดวง ริเวอร์ เซอร์เฟส วอเตอร์แพลนท์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาที่เมืองฮานอยที่บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 34% ได้รับผลดีจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมทั้งในบริเวณฮานอยและจังหวัดใกล้เคียงอย่างบั๊กนิญ และฮึงเอียน ซึ่งทางบริษัทได้ขยายท่อประปาไปยัง 3 จังหวัดเมื่อปีที่ผ่านมา
