จับตาสอบถุงมือยางฉาวอคส. ลาก 2 เดือนยังไร้เงาผลสอบ

GLOVE-ถุงมือยาง
(File Photo)Mohd RASFAN / AFP

สอบ “ทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง” มูลค่ากว่า 1.1 แสนล้านบาท 3 เจ้าหน้าที่ยังเงียบ “ผอ.อคส.” ชี้ยังไม่ได้รับผลสรุป2 คณะกรรมการจากกระทรวง คาดเคาะได้ตุลาคมนี้

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลสอบความผิดทางวินัย และความผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) 3 ราย ได้แก่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส.

และเจ้าหน้าที่บริหาร ระดับ 8 คือ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ และนายมูรธาธร คำบุศย์ กรณีจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยมิชอบด้วยกฎหมายจากคณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย

และคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ซึ่งคาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณา น่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้

“เมื่อคณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย แจ้งผลสอบออกมาชัดเจนแล้วมีโทษให้ออกและไล่ออกอย่างไร ตนก็จะดำเนินการตามผลสอบทันที แต่หากผู้ที่ถูกกล่าวหาเห็นว่าโทษนั้นไม่ถึงขั้นร้ายแรง

ผู้ถูกกล่าวหานั้นสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อนายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ (บอร์ด) องค์การคลังสินค้า (อคส.) ว่าคำสั่งนั้นไม่เห็นชอบด้วย ซึ่งประธานบอร์ดสามารถพิจารณาโดยตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์ขึ้นมาเพื่อพิจารณาคำสั่งดังกล่าวนั้นได้”

เช่นเดียวกับผลสอบของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด หากพิจารณาออกมาผิด ตนก็จะทำเรื่องเสนอเข้าไปที่กระทรวงการคลังเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาต่อไปกับผู้ที่กระทำความผิด

ก่อนหน้านี้มีรายงานเมื่อเดือนสิงหาคมว่าคณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย ซึ่งมีนายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการพิจารณาความผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.)

ได้มีการสรุปผลสอบมาแล้วหลังจากใช้เวลาสอบไปนานกว่า 5 เดือน โดยคาดว่ามีบทสรุปลงโทษไล่ออก ซึ่งจะทำให้ทั้ง 3 คนไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญใด ๆ ทั้งนี้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์มีอัตราเงินเดือนกว่า 80,000 บาท

ส่วนเจ้าหน้าที่บริหาร ระดับ 8 เงินเดือนกว่า 30,000 บาท และนายมูรธาธรมีเงินเดือนกว่า 20,000 บาท

ส่วนการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ซึ่งมีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน อยู่ระหว่างการพิจารณาและเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ

สำหรับการชดใช้ความเสียหายให้ อคส.เบื้องต้นราว 2,000 ล้านบาท ยังไม่รวมดอกเบี้ยและค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ แต่หากไม่ชดใช้ให้ อคส.สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครอง หรือถ้าไม่มีเงินชดใช้ต้องบังคับคดีและยึดทรัพย์