ฝนถล่มทั่วไทยทุบราคาไข่ไก่ดิ่ง วอนเอกชนปรับลดการผลิต

ไข่ไก่

กรมปศุสัตว์ชี้แจงข่าวชะลอนำเข้า-นำผ่านสัตว์หรือซากสัตว์เพื่อสกัดการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ปี 2565 ชี้ไข่ไก่ราคาตกจากฝนตกหนัก เร่งขอความร่วมมือเกษตรกรส่งออก ปลดไก่พยุงราคา

วันที่ 28 กันยายน 2564 รายงานข่าวระบุว่า จากกระแสข่าวที่ระบุว่าทางกรมปศุสัตว์อาจประกาศชะลอนำเข้า-นำผ่าน “สัตว์หรือซากสัตว์บางประเภท” สกัดโรคระบาดเข้าไทย ในการสกัดการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ในปี 2565 ทั้งหมดหรือเฉพาะ 7 ราย ที่ขอนำเข้าใหม่ โดยมีผู้ประกอบการบางรายที่มีปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ในไทยได้รับประโยชน์นั้น

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากมาตรการในการชะลอนำเข้าหรือนำผ่านสัตว์และซากสัตว์จากต่างประเทศ จะมีการดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะนำเข้าโรคระบาดมากับสัตว์หรือซากสัตว์ในกรณีที่มีรายงานว่าประเทศต้นทางมีโรคระบาดสัตว์เท่านั้น

ซึ่งเป็นการดำเนินการรายประเทศเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่สามารถเลือกปฏิบัติในการระงับหรือชะลอการนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์ของผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งได้ และในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดแผนการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ของปี 2565 ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาสถานการณ์การผลิตและการตลาดโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาคเอกชนและภาครัฐก่อนนำเสนอเข้าสู่เอ้กบอร์ด

สำหรับเรื่องราคาไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ทางสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ได้มีการแจ้งราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ปรับตัวลดลง 20 สตางค์ อยู่ที่ฟองละ 2.80 บาท เทียบกับคาดการณ์ต้นทุนการผลิตไข่ไก่ปัจจุบันที่ฟองละ 2.75 บาท (คณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่) นั้น มีสาเหตุจากปัจจุบันมีฝนตกหนักติดต่อกัน รวมถึงมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประกอบกับแนวโน้มอัตราการบริโภคไข่ไก่จากการกักตุนในครัวเรือนลดลง จากเดิมที่ประชาชนมีการกักตุนไข่ไก่ เพราะความกังวลต่อสถานการณ์และส่วนหนึ่งต้องทำงานที่บ้าน

ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการหารือและวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และผู้ค้าไข่ไก่ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ว่า ในเดือนตุลาคมของทุกปีมีฝนตกหนักและเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ราคาไข่ไก่ปรับตัวลดลงทุกปี

จึงได้มีมาตรการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ยืนกรงให้ปลดไก่ไข่ที่อายุเหมาะสมกับสถานการณ์ และมีมาตรการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ร่วมกันผลักดันการส่งออกไข่ไก่หรือปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงชดเชยการส่งออกเพื่อปรับลดกำลังการผลิตไข่ไก่ภายในประเทศตามสถานการณ์ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2564 แล้ว ซึ่งกรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการขอความร่วมมือและติดตาม ทั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ในการช่วยกันดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว เพื่อพยุงราคาในเดือนตุลาคม 2564 โดยเร็วด้วย