ประวิตร ตรวจอ่างลำเชียงไกร ย้ำทุกหน่วยงานช่วยประชาชนให้ได้มากสุด

“ประวิตร” ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกร อธิบดีกรมชลฯ เผย 1-2 ต.ค. ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ตอนบน ต้องระบายน้ำออกทางอาคารระบายน้ำเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะมาอีก

วันที่ 1 ตุลาคม 2564 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่อำเภอด่านขุนทด อำเภอพระทองคำ อำเภอโนนไทย และอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา อย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณฝนสะสมตั้งแต่วันที่ 23-26 ก.ย.64 ได้176 มม.ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าตามแหล่งน้ำธรรมชาติไหลหลากลงสู่อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ปริมาณมาก และไหลข้ามทำนบดินไซต์งานก่อสร้างชำรุดตรงบริเวณที่ก่อสร้างอาคารระบายน้ำ Service spillway อ่างฯลำเชียงไกร(ตอนล่าง) ที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 70 มีน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ริมน้ำและพื้นที่ท้ายอ่างฯ ได้แก่ อำเภอโนนไทย และอำเภอโนนสูง 

ล่าสุด กรมชลประทาน ได้ใช้หินใหญ่ถมบริเวณที่ชำรุด เพื่อปิดกั้นน้ำลดความแรงของน้ำ หลังจากนั้นจะใช้ดินถมปิดช่องน้ำไหลผ่าน เพื่อควบคุมน้ำให้กลับมาไหลผ่านทางอาคารระบายน้ำ คาดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้ในเร็ววันนี้

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 1-2  ตุลาคม 2564 นี้ จะยังคงมีฝนตกในพื้นที่ตอนบน จึงยังจำเป็นจะต้องระบายน้ำออกทางอาคารระบายน้ำเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะมาอีก  หากปริมาณฝนลดลงจะใช้ stop log ปิดทางระบายน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าต่อไป 

ปัจจุบัน (1ต.ค.64) อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 4.91 ล้าน ลบ.ม. หรือ 17 % ของความจุอ่างฯ 

ในการนี้ พล.อ.ประวิตรฯ ได้สั่งการให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก เตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อม มอบจังหวัดและกรมชลประทาน พิจารณาความเหมาะสมรับน้ำหลาก รวมถึงวางแผนเก็บน้ำสำรองทุกแห่ง ทั้งผิวดินและใต้ดินไว้รองรับน้ำในช่วงฤดูแล้งหน้า ทั้งนี้ ขอให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทับรั้ง พร้อมระบบส่งน้ำและอ่างเก็บน้ำซับกระจาย พร้อมระบบส่งน้ำ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกักของอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมกันนี้ ให้เร่งซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง)ให้สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง