“บิ๊กฉัตร” บี้ส่วนราชการใช้ยางพารา หนุนทำถนน เป้า 12 ตัน

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้า การใช้ยางพาราในการดำเนินโครงการของส่วนราชการ ปี 2560 ที่สหกรณ์การเกษตรรัตภูมิ จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ จ.สงขลา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนการใช้ยางภายในประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมา หลายหน่วยงานมีความต้องการจะใช้ยางภายในประเทศ แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ ติดเรื่องของมาตรฐาน การจัดซื้อ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ และแต่ละหน่วยงานไม่ได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้ จำเป็นจัดประชุมเพื่อทบทวนหารือร่วมกัน

ทั้งนี้ ได้มีการสรุปการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ปีงบประมาณ 2560 ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2560 มีจำนวน 9 หน่วยงานยื่นความจำนงใช้ยางพารา ได้แก่ 1.กระทรวงเกษตรฯ 2.กระทรวงกลาโหม 3.กระทรวงคมนาคม 4. กระทรวงศึกษาธิการ 5.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 6.กระทรวงสาธารณสุข 7.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา 8.กระทรวงมหาดไทย และ 9.กรุงเทพมหานคร มีการใช้ยางพารา รวมปริมาณน้ำยางข้น 22,321.54 ตัน และยางแห้ง 2,952.66 ตัน รวมเงินงบประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับปี 2561 มี 5 หน่วยงานที่ยื่นความจำนงใช้ยางพารา ได้แก่ 1.กระทรวงเกษตรฯ 2.กระทรวงกลาโหม 3.กระทรวงคมนาคม 4.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และ 5 กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการเพิ่มเติมให้หน่วยงานอื่นๆ ดำเนินการเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งตั้งงบประมาณโดยใช้งบปกติของแต่ละหน่วยงาน และแจ้งข้อมูลภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ ในระยะยาวสั่งการให้นำเอาเรื่องถนนยางพาราดินซีเมนต์ไปศึกษาในทุกหน่วยงานที่จะเกี่ยวข้องกับการทำถนน เพราะถนนดินซีเมนต์นี้จะนำไปใช้ในเรื่องของการทำซับเบส คือ ส่วนของด้านล่างของตัวชั้น ไม่ใช่ชั้นผิวถนน ซึ่งทุกผิวถนนสามารถใช้ซับเบสนี้ได้ เพราะสามารถเพิ่มปริมาณได้ถึง 12 ตัน นอกจากนี้ กรมชลประทานได้ดำเนินการทดสอบแล้ว 6 เดือนผลการทดสอบใช้ได้ถึง 18 ตัน ต่อ 1 กิโลเมตร

นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับรายการพิจารณาชนิดของผลิตภัณฑ์ยางที่นำมาใช้ในการดำเนินโครงการของส่วนราชการ มี 23 รายการ อาทิ ถุงฝายยาง แผ่นยางรองคอสะพาน ยางกันชนท่าเรือ ท่อยางดูดน้ำและส่งน้ำ แผ่นยางซึม ยางขวางถนนจำกัดความเร็ว ยางปูพื้น ยางปูพื้นลู่วิ่งลานกรีฑา เป็นตัน ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีมอก.แล้ว 22 รายการ และมีมอก.พร้อมราคากลางสำนักงบประมาณ 1 รายการ รวมทั้งยังไม่มี มอก. 1 รายการ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์