“จุรินทร์” ลงใต้เร่งเปิดด่าน ตากใบ-บูเก๊ะตา ดันค้าชายแดนไทย-มาเลย์

“จุรินทร์” ออนทัวร์ลงใต้ เคาะมาตรการ ช่วยภาคธุรกิจ อำนวยความสะดวกการขนส่ง พร้อมเร่งรัดการเปิด 2 ด่าน ตากใบ-บูเก๊ะตา เพื่อช่วยรายย่อยส่งสินค้าไปมาเลเซีย

วันที่ 15 ตุลาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.พาณิชย์) และหอการค้าจังหวัด นราธิวาส ว่า ที่ประชุมเห็นชอบผลักดันการเปิดด่านที่จังหวัดนราธิวาสเพิ่มเติม 2 ด่าน คือ ด่านตากใบและด่านบูเก๊ะตา ซึ่งทั้ง 2 ด่านนี้ได้มีการปิดมาตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา โดยจังหวัดนราธิวาสเป็นผู้สั่งปิดในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

ขณะนี้ สถานการณ์โควิดค่อย ๆ คลี่คลายขึ้น จึงมีความเห็นว่าควรจะเปิดด่านทั้ง 2 ด่านนี้อีกครั้ง เพื่อให้การค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียมีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อเป็นเป้าหมายในการเพิ่มช่องทางการนำเข้ารายได้ให้กับประเทศเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า ด่านดังกล่าวมีความพร้อมที่จะเปิดด่านได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป แต่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากทางฝั่งมาเลเซียด้วย ซึ่งในที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ คือ

1.ให้จังหวัดนราธิวาสเตรียมความพร้อมในส่วนของฝั่งไทยและ 2.ให้ทูตพาณิชย์ไทยประจำมาเลเซียประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเตรียมการเปิดด่านและกำหนดวันเวลาที่สอดคล้อง ส่วนขั้นตอนเอกสารนั้นกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้ประสานงานทั้งหมดและเมื่อถึงเวลาที่สามารถเปิดได้ตนจะเดินทางมาติดตามด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมยังพิจารณาแก้ปัญหาเพื่ออำนวยความสะดวก โดยเฉพาะการส่งสินค้าผ่านแดน ของด่านสุไหงโก-ลก ซึ่งขณะนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องของผลไม้โดยเฉพาะทุเรียน ที่จะส่งออกไปยังมาเลเซีย ภาคเอกชนเข้าใจว่าจะต้องมีเอกสาร GAP ถึงจะส่งไปได้ แต่ข้อเท็จจริงได้รับคำยืนยันจากอธิบดีกรมวิชาการเกษตรว่าไม่จำเป็นต้องมีเอกสาร GAP ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายรับทราบและนายด่านสุไหงโก-ลกเข้าใจแล้ว ว่าจะไม่มีการเรียกเอกสารนี้

นอกจากนี้ ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ในการขายสินค้าให้กับชาวมาเลเซียผ่านระบบออนไลน์ ที่อาจมีปริมาณของแต่ละสัญญาซื้อ-ขายไม่มากนัก แต่ติดปัญหาอุปสรรคในเรื่องของการส่งสินค้าทีละน้อยข้ามแดนไปยังผู้ซื้อจากมาเลเซีย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายด่านโก-ลก บริษัทชิปปิ้ง และภาคเอกชนผู้ประกอบการรายย่อยประชุมหารือกันหาช่องทางที่เป็นทางออกในการอำนวยความสะดวกให้ต่อไป

และในการหารือแก้ไขประเด็นสุดท้าย โดยภาคเอกชนขอให้ไปรษณีย์ไทยช่วยลดค่าบริการส่งสินค้าบางกลุ่มซึ่งปัจจุบันไปรษณีย์ลดค่าบริการโลจิสติกส์ผ่านไปรษณีย์ไทยให้รายการต่างๆเยอะแล้ว เช่น ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป ลดราคาค่าส่งไปรษณีย์ให้เป็นกรณีพิเศษอยู่แล้ว แต่หากมีสินค้าใดเพิ่มเติมและมีปริมาณตามสมควรให้รวบรวมและเจรจากับไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดต่อไปได้ ไปรษณีย์จะใช้ดุลพินิจในการช่วยอำนวยความสะดวกต่อไปถือเป็นนโยบาย โดยเป็นกรณีไป