ปิ่นทอง เตรียมขาย IPO ดันรายได้โต 60% นักลงทุนจ่อบินเข้าดูพื้นที่

ปิ่นทอง

“นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง” พร้อมระดมทุนขายหุ้น IPO เดินหน้าสร้างรายได้จากยอดขายที่ดิน-เช่าอาคาร ดันรายได้โต 60% เตรียมรับอานิสงค์เปิดประเทศนักลงทุนจ่อบินดูพื้นที่ เซ็นสัญญา ชูโครงปิ่นทอง 6 และ Logistics Park ดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย

วันที่ 20 ตุลาคม 2564 นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปลายเดือน ต.ค. 2564 นี้ บริษัทคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 290 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานที่จะเป็นส่วนช่วยผลักดันรายได้ขอบริษัทในอนาค โดยบริษัทจะเดินหน้าพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงโครงการ Logistics Park

ซึ่งจะใช้จุดเด่นในเรื่องของประสบการณ์กว่า 25 ปี ทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ไข่แดง อย่าง เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ท้าเรือมาบตาพุด รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอู่ตะเภา ปัจจุบัน บริษัทมีนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง ซึ่งยังคงเหลือพื้นที่ขายประมาณ 1,800 ไร่ โดยเฉพาะในนิคมฯ ปิ่นทอง 4 ปิ่นทอง 5 รวมถึงปิ่นทอง 6 ที่กำลังจะเปิดดำเนินการเร็วๆนี้ และพื้นที่ Logistics Park จำนวนอีก 1 โครงการ

ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดประเทศจะทำให้นักลงทุนที่เตรียมเข้ามาดูพื้นที่และเซ็นสัญญาพร้อมเดินทางเข้ามาทันที โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นอุตสาหกรรม S-Curve กลุ่มนักลงทุนจีนที่มีแผนย้ายฐานการผลิตมาอาเซียนโดยเฉพาะไทยมากขึ้น

นายสุรัช พัฒนวงศ์ยืนยัง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฎิบัติการ บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการในพื้นที่ EEC คือ ฝนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 6 จ.ระยอง พื้นที่โครงการ 1,322 ไร่ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่ (S-Curve) ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิตเป็นหลัก คาดว่าจะเปิดขายเฟสแรกภายในไตรมาส 4/2564 นี้

และโครงการ Logistics Park โดยเป็นการพัฒนาที่ดินและสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า บนพื้นที่ของโครงการที่ประกอบด้วยเขตปลอดอากร (Free Zone) และเขตทั่วไป (General Zone) คาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการปลายปีนี้ ซึ่งผลักดันโครงสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพิ่มขึ้นเป็น 40-50% ภายใน 4-5 ปีจากนี้ จากปัจจุบัน 20-30% ของรายได้รวม

สำหรับรายได้จากการขายพื้นที่ และการบริการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) อยู่ที่ 888.88 ล้านบาท 789.28 ล้านบาท และ 1,062.85 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 216.43 ล้านบาท 223.70 ล้านบาท และ 403.89 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตที่ดีมาจากการขายที่ดินที่พัฒนาแล้วในโครงการปิ่นทอง 3, 4 และ 5 รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนของรายได้ Recurring Income ซึ่งมาจากรายได้การให้เช่าและให้บริการเพิ่มขึ้น

ขณะที่รายได้จากการขายที่ดินช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 205.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 99.31 ล้านบาท เติบโตขึ้น 79% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเพียง 55.57 ล้านบาท