ราคาปาล์มพุ่งกระฉูดทะลุ 9 บาท/กก. หลัง กบง.พลิกมติใช้ B7-B20-B10 ตามเดิม ด้าน ส.ชาวสวนโอดราคาแพงต้นทุนปุ๋ยก็พุ่ง กระสอบละ 500 บาท วอนรัฐช่วยกระจายปุ๋ยราคาถูกให้ทั่วถึง พร้อมขอบคุณ กบง.ไม่เลิกไบโอดีเซล
นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ราคาผลปาล์มขยับขึ้นเป็น กก.ละ 9 บาทแล้ว ถือเป็นราคาที่สูงสุดในรอบ 10 ปี จากก่อนหน้านี้ราคา กก.ละ 8.40 บาท ซึ่งเป็นผลจากตลาดโลกต้องการปาล์มมากขึ้น ทั้งอียูที่นำเข้าปาล์มไปผลิตไบโอดีเซล
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ขณะที่ประเทศผู้ปลูกปาล์มมีผลผลิตลดลงโดยเฉพาะบราซิลประสบภัยแล้ง นั่นจึงหนุนให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในต่างประเทศขยับขึ้นเป็น กก.ละ 42 บาท และในประเทศขยับขึ้นเป็น กก.ละ 44 บาท ซึ่งผลผลิตของไทยปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณ 14-15 ล้านตัน จากพื้นที่ปลูก 6-6.5 ล้านไร่
“ทางเกษตรกรต้องขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาถึงผลกระทบต่อภาคประชาชน หลังราคาน้ำมันยังคงมีทิศทางที่ผันผวน จึงปรับสูตรน้ำมันไปใช้สูตรเดิม 3 เกรด คือ B7 B10 และ B20 และยกเลิก B6 เพื่อสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564”
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ปาล์มไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น และในต่างประเทศอย่างมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตปาล์มน้ำมัน ก็ยังมีการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B30 หรืออินโดนีเซียก็ใช้ B30 และกำลังพัฒนาสู่ B40 หรืออียูก็ต้องสั่งนำเข้าปาล์มไปผสมไบโอดีเซล
ซึ่งกรณีที่ทางผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งรถบรรทุกบอกว่าต้นทุนน้ำมันไบโอดีเซลขยับขึ้นควรเลิกทำไบโอดีเซลนั้น เป็นเพียงระยะสั้น เพราะตอนนี้ผู้ผลิตบราซิลเกิดภัยแล้ง ซึ่งตอนเริ่มนโยบายไบโอดีเซลตอนนั้นผลปาล์มถูก กก.ละ 2 บาท ราคา CPO กก.ละ 18 บาท แต่ดีเซลแพงนั่นเป็นสาเหตุที่เอามาช่วยผสม แต่ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ดีเซลถูกลง และการผลิตไบโอดีเซลยังเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั่วโลกกำลังมุ่งสู่เรื่องนี้ การลดการปล่อยคาร์บอน
“หากกลุ่มขนส่งมองด้านเดียวจะให้ราคาดีเซลอยู่ที่ 25 บาทต่อลิตรเป็นไปไม่ได้ การปรับราคาค่าขนส่งนั้น ทางเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มก็ต้องได้รับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เมื่อปี 2547 ราคาน้ำมันสูงขึ้น ปรับราคาขนส่งไปแล้ว แต่เมื่อราคาน้ำมันลดลงก็ไม่มีการลดค่าขนส่ง”
“การที่ปาล์มราคาสูงขึ้นก็จริง แต่เกษตรกรต้องเจอกับต้นทุนการปลูกปาล์มที่ปรับสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะราคาปุ๋ยปาล์มที่เราใช้สูตร 18-0-0 ปกติกระสอบละ 700 บาทต้น ๆ แต่ตอนนี้ปรับขึ้นไปเป็นกระสอบละ 1,200 บาทแล้ว หรือคิดเป็นตันละ 24,000 บาทในช่วง 5 เดือน”
“ซึ่งปาล์มเป็นพืชต้องใส่ปุ๋ยตลอดปี เกษตรกรต้องจ่ายค่าปุ๋ยมากขึ้น ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการจัดทำโครงการลดราคาปุ๋ยนั้น มาตรการกระจายปุ๋ยไม่ได้ชัดเจน ที่มอบให้สหกรณ์ไปบริหารจัดการก็อาจจะทำให้ไม่ได้รับทั่วถึง ทำไมรัฐบาลไม่กำหนดไปเลยว่า จะช่วยเกษตรกรรายละกี่ไร่ เช่น อาจจะ 25 ไร่ เท่ากับประกันรายได้”
